ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 1.31 จุดอ่อนกว่าภูมิภาค วิตกงบปี 64 ล่าช้า-ชุมนุมการเมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 14, 2020 12:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,281.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขายราว 19,951 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยแกว่งขึ้นในกรอบแคบ เผชิญแรงขายระหว่างทางทำให้ด้อยกว่าภูมิภาค หลังวิตกงบประมาณปี 64 ล่าช้า และการชุมนุมใหญ่สุดสัปดาห์นี้ รวมถึงมีปัจจัยเฉพาะตัว TASCO ปิดโรงกลั่นในมาเลเซียชั่วคราวหลังสหรัฐกดดันไม่ให้ซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลา กระทบหุ้นที่เกี่ยวข้องทั้ง TIPCO และ PRM ขณะที่ทางเทคนิคไม่ผ่านระดับ 1,292 จุดทำให้มี Downside และคาดดัชนีซึมตัวลงต่อในช่วงบ่าย ให้แนวรับ 1,269 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,292 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,281.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขายราว 19,951 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,287.35 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,277.98 จุด

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ปรับขึ้นด้อยกว่าตลาดภูมิภาคที่ฟื้นตัวหลังลงมาแรงในสัปดาห์ก่อน โดยตลาดบ้านเราตอบรับปัจจัยลบจากความล่าช้าของงบประมาณปี 64 มองเป็นลบต่อหุ้นบริโภคในประเทศ อย่าง กลุ่มค้าปลีก และรับเหมาก่อสร้าง ทำให้เผชิญแรงขายออกมา รวมถึงยังกังวลการชุมนุมใหญ่ทางการเมืองในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ภายใต้สถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเฉพาะหุ้นรายตัวอย่าง บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) ที่ต้องหยุดซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาตามที่สหรัฐร้องขอ ส่งผลทำให้ต้องปิดโรงกลั่นในมาเลเซียชั่วคราว ซึ่งกระทบการดำเนินธุรกิจหลักของ TASCO อย่างมีนัยสำคัญ และกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่าง บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และบมจ.พริมา มารีน (PRM) ซึ่งเป็นผู้ให้ TASCO เช่าเรือขนส่งด้วย

ขณะเดียวกันทางเทคนิคการที่ดัชนีไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,292 จุดได้ ทำให้เกิด Downside ชัดเจน และมีโอกาสที่ดัชนีจะปรับลงมาเคลื่อนไหวในบริเวณ 1,255-1,269 จุดในระยะสั้น

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายภาคบ่าย คาดว่าดัชนีจะซึมตัวลงต่อเนื่อง แต่อาจยังมีแรงเก็งกำไรหุ้นเฉพาะกลุ่มที่ยัง Laggard อย่างกลุ่มโรงแรม โรงภาพยนตร์ มองแนวรับที่ 1,269 จุด และแนวต้านที่ 1,292 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

          CBG    มูลค่าการซื้อขาย    974.25 ล้านบาท  ปิดที่  110.00 บาท ลดลง   3.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 774.61 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

STGT มูลค่าการซื้อขาย 693.68 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

ASIAN มูลค่าการซื้อขาย 653.82 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

          PTT    มูลค่าการซื้อขาย    620.19 ล้านบาท  ปิดที่   35.50 บาท เพิ่มขึ้น  0.50 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ