ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 7.62 จุด ด้อยกว่าภูมิภาค ยังไร้ รมว.คลัง-งบปี 64 ล่าช้าฉุดเชื่อมั่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 14, 2020 17:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,272.34 จุด ลดลง 7.62 จุด (-0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 40,463.20 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยอ่อนแอกว่าภูมิภาคที่ได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าวัคซีนต้านโควิด-19 ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยถ่วงเฉพาะตัวเดิมกดดันทั้งจากสถานการณ์การเมือง และไร้ รมว.คลังคนใหม่ดูแลเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในวันนี้คือความล่าช้าของงบประมาณปี 64 กระทบต่อความเชื่อมั่นและบรรยากาศการลงทุน พร้อมมองแนวโน้มยังซึมตัวลงต่อในวันพรุ่งนี้ ให้แนวรับ 1,270 และ 1,260 จุด ส่วนแนวต้าน 1,285 และ 1,290 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,272.34 จุด ลดลง 7.62 จุด (-0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 40,463.20 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวสลับกันทั้งแดนบวกและลบ ก่อนจะยืนอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ตลอดการซื้อขายภาคบ่าย โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุด 1,287.35 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,270.59 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 375 หลักทรัพย์ ลดลง 1,162 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 387 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวสอดคล้องกับที่ประเมินว่าจะแกว่งตัวอ่อนแอกว่าภูมิภาค โดยตลาดหุ้นเอเชีย ยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สล้วนแต่ปรับตัวขึ้น ขานรับประเด็นความคืบหน้าของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีแรงกดดันเฉพาะตัว นอกจากเรื่องของสถานการณ์การเมือง และการที่ยังไม่มีความชัดเจนของผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งรมว.คลังคนใหม่แล้ว วันนี้ยังมีประเด็นเพิ่มเติมจากงบประมาณปี 64 ที่อาจมีความล่าช้า โดยร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีกำหนดจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 16-18 ก.ย.นี้ แต่มีรายงานข่าวว่าสำนักงบประมาณทำหนังสือแจ้งหน่วยงานต่าง ๆ ว่างบประมาณปี 64 จะใช้บังคับไม่ทันในวันที่ 1 ต.ค.นี้

กรณีดังกล่าวเป็นสิ่งที่ตลาดไม่ได้คาดมาก่อน และเป็นปัจจัยกดดัน เพราะการใช้จ่ายของภาครัฐนับเป็นเครื่องยนต์เดียวในขณะนี้ที่จะช่วยประคองเศรษฐกิจไว้ได้ ถ้าหากงบประมาณยังมีความล่าช้า ประกอบกับยังไม่มี รมว.คลังเข้ามาดูแลเศรษฐกิจ ก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและบรรยากาศการลงทุนโดยรวม ส่วนสถานการณ์การเมืองทั้งในสภาฯที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการชุมนุมนอกสภาฯที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ก็ยังเป็นปัจจัยที่เข้ามารบกวนตลาดต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังแกว่งซึมตัวลง โดยมีแนวรับที่บริเวณ 1,270 และ 1,260 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,285 และ 1,290 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CBG มูลค่าการซื้อขาย 1,416.11 ล้านบาท ปิดที่ 110.00 บาท ลดลง 3.50 บาท

CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,399.96 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,311.44 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,110.58 ล้านบาท ปิดที่ 21.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,058.37 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ