SFT มั่นใจผลงาน Q3/63 โตแรงรับออร์เดอร์พุ่งหลังโควิดคลี่คลาย-รักษามาร์จิ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 4, 2020 14:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SFT มั่นใจผลงาน Q3/63 โตแรงรับออร์เดอร์พุ่งหลังโควิดคลี่คลาย-รักษามาร์จิ้น

นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) (SFT) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/63 มั่นใจว่าจะผลักดันการเติบโตได้ในอัตราที่สูง เนื่องจากออร์เดอร์การผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปมีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมและเครื่องดื่มหลังสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ภายในประเทศคลี่คลาย ประกอบกับบริษัทวางแผนด้านการตลาดที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าในช่วงปลายปีนี้ เพื่อสนับสนุนความต้องการฉลากฟิล์มหดรัดรูปที่มากขึ้น ทำให้คาดว่าอัตราการใช้กำลังผลิตในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งแรกของปีนี้

ขณะเดียวกันบริษัทยังบริหารจัดการต้นทุนการผลิตช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่ดี โดยมุ่งรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อกำไรสุทธิของบริษัททั้งในไตรมาส 3/63 และ 9 เดือนแรกของปี 63 โดยหลังจากที่ครึ่งปีแรกมีกำไรจากการดำเนินงาน 49.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.38% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่ต้องการผลักดันการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 10% ต่อปี จากแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แก่แบรนด์ของลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงแผนขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยใช้ฐานการผลิตที่แข็งแกร่งและประสบการณ์ดำเนินธุรกิจมายาวนาน ช่วยตอบสนองความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดี

"เราเห็นสัญญาณออร์เดอร์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังสถานการณ์โควิด-19 มีทิศทางที่ดี ทำให้ลูกค้าเร่งผลิตสินค้าเพื่อป้อนตลาดมากขึ้น รวมถึงเรามีการวางแผนการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับการออกสินค้าใหม่ของลูกค้า จึงเป็นตัวเร่งดีมานด์สินค้าฉลากฟิล์มหดรัดรูปในไตรมาสนี้ เพื่อช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มแก่แบรนด์สินค้าของลูกค้ามากขึ้น"นายซุง ชง ทอย กล่าว

ส่วนแผนงานหลังเข้าจดทะเบียนในตลาด เอ็ม เอ ไอ (mai) บริษัทจะเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปและการขยายไลน์การผลิต เช่น ฟิล์มหดรัดรูปในกลุ่มฟิล์มใสที่มีความหดตัวสูง (POF Shrink Film) และกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ช่วยให้เกิด Economy of Scale จากการเพิ่มอำนาจการต่อรองกับซัพพลายเออร์ในการซื้อวัตถุดิบ และรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี รวมถึงแผนมุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ที่มีความต้องการใช้ฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ ส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตได้ตามแผนแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ