นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) กล่าวว่า มั่นใจรายได้ในปี 63 จะเติบโตกว่าเท่าตัวจากปี 62 ที่มีรายได้ 767.26 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 /63 คาดรายได้จะใกล้เคียงกับแต่ละไตรมาสที่ทำได้ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งไตรมาส 4 นับเป็นช่วงไฮซีซั่นของเกม
ทั้งนี้ ในงวด 9 เดือนปี 63 มีรายได้ 1,006.3 ล้านบาท เติบโต 81% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี 554.6 ล้านบาท
นายปราโมทย์ กล่าวว่า ในงวด 9 เดือนปีนี้มีการเติบโตค่อนข้างก้าวกระโดด เนื่องจากทุกตลาดที่บริษัทดำเนินการยังมีการเติบโตและกลุ่มลูกค้าใหม่และเก่าก็ยังใช้บริการอยู่ และจากที่บริษัทได้ปรับโครงสร้างทำให้ต้นทุน และค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งก่อนเกิดโควิด-19 ทางบริษัทก็เห็นแล้วว่า บริษัทจะกลับมาเติบโตซึ่งสามารถทำกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ และสถานการณ์โควิด-19 ก็ทำให้บริษัทเดินตามเป้าหมายได้เร็วขึ้น ดังนั้น ทำให้มั่นใจว่าในปี 63 ผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างแข็งแรง และทำให้บริษัทแข็งแกร่งที่จะขยายต่อเนื่องต่อในปี 64
สำหรับในปี 64 บริษัทมีแผนงานสำคัญที่จะขยายรายได้เพิ่มขึ้น โดยนอกจากจะขยายพีซีเกมที่บริษัททำรายได้เป็นหลักแล้ว ก็จะขยายไปที่เกมโมบายซึ่งเตรียมเปิดตัวเกมโมบายมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกันนั้นจะขยายตลาดใหม่ในประเทศใหม่ อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย ที่เป็นตลาดใหญ่กว่าไทย และอยู่ใกล้ประเทศไทย เหล่านี้จะเป็นโอกาสใหม่ให้บริษัท ที่จะเพิ่มสัดส่วนของรายได้ โดยจะไม่พึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่ง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทสามารถบริหารความเสี่ยงและดำเนินงานได้อย่างระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง
"ที่จะโฟกัสในปีหน้าจะเพิ่มรายได้จากเกมโมบาย และขยายสู่ตลาดใหม่เพิ่มขึ้น"นายปราโมทย์ กล่าว
ทั้งนี้ การเปิดเกมใหม่ในไตรมาส 4/63 จะเปิดตัวเกมพีซี 1 เกม จากตั้งเป้าเปิด 3 เกม ส่วนเกมโมบาย 2 เกม โดยเลื่อนไปไตรมาส 1/64 ขณะที่ในไตรมาส 1/64 เปิดเกมพีซี 2 เกม เกมโมบาย 2 เกม
"เราค่อนข้างมั่นใจด้วยโมเมมตัมเกมเก่า หรือเปิดตัวเกมใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เราคิดว่าปี 2021 จะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นกับเรา เพราะเราได้เตรียมเกมไว้ซึ่งตั้ง target เกมใหม่ 6-10 เกมในปีหน้าอย่างต่ำ ส่วนในไตรมาส 4 นี้จะเลื่อนเปิดตัวเกม 2-3 เกมไปในไตรมาส 1 ปี 64 เนื่องจากความพร้อมการเตรียมตัวเปิดเกมใหม่"
อย่างไรก็ตาม ก็ยังคาดว่ารายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้เป็นไปได้ตามเป้าหมาย เพราะยังมีเกมอยู่ในมือหลายเกมที่สร้างรายได้และการเติบโตได้มาก ซึ่งมีการอัพเดทคอนเท้นท์ใหม่ๆ การเปิดเซิร์ฟเวอร์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ดังนั้นคาดว่าทั้งปี 63 รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 100% จากปีที่แล้ว
"ธุรกิจเราไม่ได้มองเป็นไตรมาส เพราะแต่ละไตรมาสก็ยังมีเกมเก่าที่มีการอัพเดทเข้ามาด้วย หรือบางไตรมาสที่เปิดเกมใหม่ก็สร้างรายได้ใหม่ ดังนั้น ปี 2020 เป็นปีที่กลับมาเติบโตและแข็งแกร่งอย่างมาก ทำให้สถานะทางการเงินและสถานะทางธุรกิจมีความมั่นคงสามารถมองไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจที่จะดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแรง พร้อมที่จะขยายต่อไป"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AS คาดว่าบริษัทจะกลับมาจ่ายเงินปันผลได้ประมาณกลางปี 64 หลังจากที่มีกำไรสะสมเป็นบวกในสิ้นปีนี้จากผลประกอบการปี 63 ที่แข็งแรง รวมทั้งบริษัทได้เปลี่ยนนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% จากเดิมไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/63
ส่วนงบลงทุนในปีหน้าจะมีงบลงทุนซื้อคอนเท้นท์หรือเกมใหม่จำนวน 100-150 ล้านบาท งบลงทุนไอที 20-30 ล้านบาท ซึ่งลงทุนมาค่อนข้างมากแล้ว ส่วนใหญ่เป็นการอัพเกรดระบบเพื่อรองรับผู้เล่น