ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 31.09 จุด ดีกว่าภูมิภาคขานรับเงินไหลเข้าหนุนหุ้นใหญ่คึกคัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 23, 2020 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,420.43 จุด เพิ่มขึ้น 31.09 จุด (+2.24%) มูลค่าการซื้อขาย 105,036.78 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดภูมิภาค ขานรับเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาซื้อหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง หลังมาตรการของธปท.ยังไม่ได้ทำให้เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าชัดเจน ประกอบกับตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19 รวมถึงตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ของไทยออกมาตามคาด ทำให้แนวโน้มทั้งปีนี้การส่งออกอาจติดลบน้อยลง พร้อมมองดัชนียังมีโมเมมตัมดีดตัวขึ้นต่อวันพรุ่งนี้ โดยมีแนวต้านที่ 1,450 และแนวรับที่ 1,400 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,420.43 จุด เพิ่มขึ้น 31.09 จุด (+2.24%) มูลค่าการซื้อขาย 105,036.78 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยดัชนีขึ้นระดับสูงสุดที่ 1,422.43 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,395.58 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,122 หลักทรัพย์ ลดลง 683 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 363 หลักทรัพย์

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าภูมิภาคที่บวกราว 1% ส่วนหนึ่งคาดว่าได้รับแรงหนุนจากเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง หลังจากที่เมื่อวันศุกร์มาตรการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมาไม่ได้ทำให้เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าชัดเจน

ประกอบกับ นักลงทุนต่างชาติยังเข้าลงทุนในตลาดหุ้นที่วโลก ขานรับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าของพัฒนาการวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ล่าสุดไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หากได้รับการอนุมัติก็คาดว่าจะฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กับประชาชนอเมริกันได้ประมาณวันที่ 11-12 ธ.ค.นี้ ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มวัฎจักรต่าง ๆ เช่น กลุ่มพลังงาน แบงก์ ปิโตรเคมี เพราะคาดว่าวัคซีนจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด

ขณะเดียวกันตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค.ของไทยที่ออกมาในวันนี้ -6.71% ไม่ได้ผิดจากที่คาด และประเมินว่าทั้งปี 63 ตัวเลขส่งออกของไทยอาจจะอยู่ในระดับ -7% ซึ่งดีขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะ ติดลบในช่วง 8-10% ช่วยหนุนภาพรวมตลาดให้ดูดีขึ้น และบดบังความกังวลต่อสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศที่ล่าสุดยังไม่มีสถานการณ์ของความรุนแรงมากนัก

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะยังปรับตัวขึ้นได้จากเงินทุนไหลเข้า น่าจะยังมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในช่วงที่รอการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีดีดตัวขึ้นมาแรงก็อาจจะทำให้ภาพรวมแกว่งตัวผันผวนได้ โดยมองแนวต้านที่ 1,450 และแนวรับที่ 1,400 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

          PTT    มูลค่าการซื้อขาย    5,526.55 ล้านบาท  ปิดที่  40.50 บาท  เพิ่มขึ้น  2.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,447.84 ล้านบาท ปิดที่ 108.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,633.50 ล้านบาท ปิดที่ 179.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,384.69 ล้านบาท ปิดที่ 98.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท

MINT มูลค่าการซื้อขาย 3,002.39 ล้านบาท ปิดที่ 24.30 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ