WAVE-W2 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.26 บาท มูลค่าซื้อขาย 24.35 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.30 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.37 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.26 บาท
ขณะที่หุ้น WAVE ปิดที่ 0.61 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท (+1.67%)มูลค่าซื้อขาย 4.15 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.61 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.64 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.59 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (WAVE) หรือ WAVE-W2 ที่ 0.22 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 0.60 บาท โดยมีความผันผวนของหุ้นแม่ที่ 62% ในด้านของต้นทุนผู้ได้รับ WAVE-W2 ไม่มีต้นทุนในการขึ้นเครื่องหมาย (ราคาหลังการปรับผลของการเพิ่มทุนเพิ่มขึ้นจาก 0.83 บาทเป็น 0.87 บาท) แม้ว่าใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีสถานะที่ OTM ไม่มาก, อายุที่พอเหมาะและช่วงเวลาใช้สิทธิที่ 4 ครั้งต่อปี แต่ด้วยสภาพคล่องของหุ้นแม่ที่ต่ำ โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 1 ปีต่อวันที่ 0.26 ล้านบาท ทำให้การเก็งกำไรของ WAVE-W2 จะทำได้ยากหลังจากที่ผ่านช่วงวันแรกของการซื้อขายไปแล้ว
พร้อมให้กรอบมูลค่าของ WAVE-W2 ไว้ที่ 0.15-0.26 บาท เมื่อราคาหุ้น WAVE เคลื่อนไหวในกรอบ 0.50-0.70 บาท โดยมี Volatility 60% per year
WAVE-W2 จำนวนที่ออก 158.66 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม : 1.5 หุ้นเพิ่มทุนที่ราคา 0.70 บาท และ 2 หุ้นเพิ่มทุน : 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยมีอัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 0.70 บาท อายุ 3 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ในทุกวันที่ 15 ของทุกไตรมาส (ใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 30 ธ.ค.2563 และหมดอายุในวันที่ 27 ต.ค. 2566)
กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ 1) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรายการโทรทัศน์ 2) ให้บริการอบรบและสอนภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อสถาบันสอนภาษา Wall Street English (WSE) 3) ให้บริการจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มภายใต้ชื่อ Jeffer Steak & Seafood