นายจักรกฤษณ์ อุทโยภาศ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ซิกโก้ (SSEC)ยอมรับว่าปี 50 อาจส่วนแบ่งตลาดทำได้ไม่ถึง 2% ตามเป้าที่ตั้งไว้ เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายโดยรวมปรับตัวลดลง ส่งผลให้ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทปรับตัวลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยดังกล่าวบริษัทได้หันไปเพิ่มรายได้ด้านอื่นมากขึ้นได้แก่ การเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุน ซึ่งขณะนี้ มีมูลค่าจากการขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวม จำนวน 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีจำนวน 5 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะมาจากการขายกองทุนตราสารหนี้
และบริษัทจะเพิ่มการขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ กองทุนเพื่อการลงทุนต่างประเทศ (FIF) ซึ่งทั้ง 2 กองทุนเป็นสินค้าที่มี value added เพิ่มให้กับนักลงทุน และเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ดังนั้น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีมูลค่าจากการขายหน่วยลงทุน 8.5 พันล้านบาท และตั้งเป้าจะเพิ่มมูลค่าการขายหน่วยลงทุนเป็น 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับปี 50 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากการขายหน่วยลงทุนใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นที่ปรีกษาทางการเงิน จำนวน 2 บริษัท ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ 1 แห่ง รวมทั้งยังมีงานด้านที่ปรึกษาทางการเงินอื่น เช่น ที่ปรึกษาการเงินอิสระ
"รายได้จากการเป็นที่ปรึกษา และ จากการขายหน่วยลงทุนจะเข้ามาชดเชยรายได้จากนายหน้าที่ลดลง" นายจักรกฤษณ์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์:
[email protected]