PCSGH คาดผลงานปีนี้โตตามยานยนต์ฟื้น-เล็งสร้าง รง.ชิ้นส่วน EV กลางปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 7, 2021 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอังกฤษ รุ่งโรจน์กิติยศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง (PCSGH) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานปี 64 จะเติบโตกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,992.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 253 ล้านบาท เป็นไปตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมียอดผลิตรถยนต์ในปีนี้ที่ 1.5 ล้านคัน จากปีก่อนอยู่ที่ 1.42 ล้านคัน และยังคงดำเนินการลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทยังมีรายได้จากการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เข้ามาเพิ่มเติม โดยปีนี้วางเป้าหมายมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 30% ของรายได้รวม ซึ่งที่ผ่านมา PCSGH ก็ได้มีการทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (ปี 63-67) ผ่านมาแล้ว 1 ปี เหลืออีก 4 ปี ในปีนี้บริษัทจะยังคงมุ่งเน้นการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นหลัก เนื่องด้วยปัจจุบันยังมีความต้องการมากอยู่จนกว่าจะเปลี่ยนแปลงไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยวางเป้าหมายจะมีสัดส่วนรายได้จากการผลิตชิ้นส่วน EV เพิ่มเป็น 52% ในปี 68 ส่วนที่เหลือจะเป็นรายได้จากชิ้นส่วนรถยนต์ที่ไม่ใช่ EV

"เนื่องจากเทรนด์ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมา บริษัทฯ ก็ได้เริ่มทำธุรกิจของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ซึ่งด้วยความสามารถของ PCSGH ก็ถือว่ามีความพร้อมในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในหลายส่วน เช่น การลดน้ำหนักของตัวรถ โดยเปลี่ยนวัสดุหนักจากเหล็กให้กลายเป็นวัสดุเบาอลูมิเนียม เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ สามารถขยับไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าได้ และเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง ก็เล็งเห็นว่าสินค้าของบริษัทฯ ในกลุ่มที่ไม่ใช่บิ๊กอัพ, ยานยนต์, เครื่องยนต์ และอื่นๆ ก็ยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง" นายอังกฤษ กล่าว

พร้อมกันนี้บริษัทยังมีแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับโปรเจ็คต์ EV ที่น่าจะเริ่มผลิตได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะสามารถอนุมัติงบลงทุนได้ในช่วงกลางปีนี้ ขณะที่งบลงทุนอื่นๆ ในปีนี้วางงบไว้ราว 200 ล้านบาทเพื่อใช้ในการพัฒนาระบบ Smart Factory ในเรื่องของดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่น

นายอังกฤษ กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/64 ที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาส 4/63 เป็นไปตามอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งลูกค้ายังมีความต้องการผลิตรถยนต์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อปลายเดือนมี.ค.64 ที่ผ่านมา ลูกค้าก็มีการยกระดับคำสั่งซื้อสูงขึ้น ทำให้มองว่ายอดขายน่าจะเติบโตได้ตามเป้า หรือเกินเป้าหมายได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ