(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงรับแรงกดดันราคาน้ำมันร่วง-โควิดยังหนัก-บาทอ่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 5, 2021 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสอ่อนตัวลง โดยคาดว่าจะได้รับแรงกดดันสำคัญจากราคาน้ำมันปรับลงค่อนข้างแรงจนหลุดระดับ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังรุนแรง วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อสูงกว่า 2 หมื่นรายทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเงินบาทอ่อนค่ากดดัน Fund Flow ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย

อย่างไรก็ดี วันนี้ติดตามกระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลขเงินเฟ้อของไทย, การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE), ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ส่วนพรุ่งนี้ให้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค.ของสหรัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,530-1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,555 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,792.67 จุด ลดลง 323.73 จุด (-0.92%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,402.66 จุด ลดลง 20.49 จุด (-0.46%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,780.53 จุด เพิ่มขึ้น 19.24 จุด (+0.13%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 15.5 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 57.41 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 36.54 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ส.ค.) 1,545.86 จุด เพิ่มขึ้น 5.35 จุด (+0.35%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,058.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 ส.ค.) ปิด 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.41 ดอลลาร์ หรือ 3.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ส.ค.) อยู่ที่ 3.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.14 แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิดทั้งใน-ตปท.
  • กนง.คงดอกเบี้ย 0.5% หั่นจีดีพีเหลือ 0.7% ห่วงเศรษฐกิจเสี่ยงสูงหลังผู้ติดเชื้อพุ่งต่อเนื่อง กกร.หวั่นเศรษฐกิจถดถอยเป็นปีที่ 2 จีดีพีติดลบ 1.5% "โควิด" ทุบบาทอ่อนสุด 16 เดือน "กรุงศรี" คาดอ่อนยาวตลอดช่วงครึ่งปีหลัง
  • บอร์ดอีอีซีเห็นชอบแก้ปัญหาไฮสปีด 3 สนามบินทับซ้อน "ไทย-จีน" ช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองให้ รฟท.เจรจา ซี.พี.แก้สัญญาร่วมทุน เร่งก่อสร้างก่อนตั้งเป้า "ไทย-จีน"เปิดใช้ ก.ค. 69 โดยไม่เพิ่มงบรัฐ ส่วนแหลมฉบังเฟส 3 อัยการตรวจร่างสัญญา คาดเซ็น "กัลฟ์-ปตท." ใน ส.ค.นี้
  • คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) รับทราบแผนการเปิดแข่งขันเสรีในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 และกรอบการจัดทำแผนพลังงานแห่งชาติ โดยมีการกำหนดปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ช่วงปี 2564-2566 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจับซื้อก๊าซมาไม่ใช้ก็ต้องจ่าย โดยแบ่งเป็นปี 2564 จะมีปริมาณนำเข้าอยู่ที่ 0.48 ล้านตันต่อปี ปี 2565 อยู่ที่ 1.74 ล้านตันต่อปี และปี 2566 อยู่ที่ 3.2 ล้านตันต่อปี
  • คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) สั่งให้ปรับเป้าหมายการลงทุนใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ช่วง 5 ปีข้างหน้า ให้มีมูลค่าการลงทุนรวม 1-2 ล้านล้านบาท หรือทำให้ได้ประมาณปีละ 5 แสนล้านบาท เพื่อผลักดันจีดีพีให้ขยายตัวได้ 2% ซึ่งจะทำให้อีอีซีกลายเป็นเครื่องยนต์หลักของการสร้างการลงทุนให้เกิดขึ้นในประเทศ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • EPG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 16 บาท คาดกำไรสุทธิ Q1/65 (เม.ย.-มิ.ย.) ที่ 420 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4%qoq และ 454% yoy วันนี้ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบร่วงแรง และ ค่าเงินบาทอ่อนค่าเพราะมีรายได้จากการส่งออกคิดเป็น 60-70% ของรายได้รวม
  • ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10.10 บาท คาดกำไร Q2/64 แข็งแกร่ง +3% Q-Q, +20% Y-Y ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 โดยได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจาก JV และรายได้ค่าบริหารโครงการที่ดีขึ้น ด้านโมเมนตัม H2/64 ยังสดใส คาดเร่งตัวทั้ง H-H และ Y-Y จากแผนการโอนคอนโดสร้างเสร็จใหม่ 4 แห่ง ระยะยาวรองรับด้วยการ Partner ทำ JV เพื่อ Diversify และต่อยอดจากธุรกิจอสังหาฯ ปัจจุบันเทรด PE เพียง 7.8 เท่าและให้ Dividend Yield 6%
  • BCPG (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" เป้า IAA Consensus 16.80 บาท แนวโน้มผลงาน Q2/64 ทรงตัว QoQ แต่จะเติบโตเด่น YoY จากกำลังผลิตโซลาร์ฟาร์มในไทยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนในลาวดีขึ้นตามปริมาณน้ำ นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้าอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ดีขึ้น ส่วนแนวโน้ม Q3/64 คาดยังดีต่อเนื่องตามฤดูกาลผลิตไฟฟ้าจากเขื่อน อีกทั้งเตรียม COD โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นในช่วง H2/64 อีก 3 โครงการ รวม 65 MW ส่วนโครงการ Monsoon Wind ในลาว 600MW ที่ BCPG ถือหุ้น 45% ล่าสุดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐบาลเวียดนามแล้วคาด COD ในปี 68
  • ADVANC (เอเชียเวลท์) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 214 บาท แนวโน้ม H2/64 จะทรงตัว HoH และหากโควิดคลี่คลายรวดเร็วจะเป็น Upside ต่อในช่วงที่เหลือของปี 64 ผู้ใช้บริการ 5G ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดทั้งปี 64 ทะลุเป้า 2 ล้านราย จำนวนผู้ใช้งานปรับตัวขึ้นเป็น 43.23 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 3 ไตรมาส แต่ ARPU ลดลง 3%QoQ ปรับกำไรปี 64-65 ลง สะท้อนผลกระทบโควิดมากกว่าคาด ประกาศจ่ายเงินปันผล 1H64 ที่ 3.45 บาท XD 16 ส.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ