IVL มั่นใจ H2/64 ดีขึ้นตามดีมานด์-ราคาผลิตภัณฑ์,ยันดีลบราซิลไม่ต้องเพิ่มทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 9, 2021 13:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดีเค อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจ Combined PET, IOD และ Fibers บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังยังมีทิศทางการเติบโตขึ้นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากภาพรวมของดีมานด์ในตลาดโลกที่ยังเห็นทิศทางการฟื้นตัวกลับมาเพิ่มขึ้นสูงกว่าครึ่งปีแรกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในสหรัฐฯและยุโรปที่มีการเปิดเมืองมากขึ้น และได้รับผลกระทบจากการแพร่ะบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าไม่มากทำให้ยังไม่มีการล็อกดาวน์ ดังนั้น ยอดขายในสหรัฐฯและยุโรปยังเป็นปัจจัยหนุนหลักที่เข้ามาช่วยผลักดันการเติบโตของผลงานในปีนี้

อีกทั้งบริษัทยังมีกำลังการผลิตกลับมาเพิ่มจากโรงงานในเท็กซัสที่สหรัฐฯ หลังจากปิดไปในช่วงครึ่งปีแรกจากเหตุการณ์ฟ้าผ่า ทำให้มีกำลังการผลิตกลับมาหนุนยอดขาย

ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นมายังช่วยสนับสนุนให้ราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทิศทางช่วงครึ่งปีหลังมองว่ายังเห็นการเติบโตขึ้นได้บ้างจากครึ่งปีแรกที่ปรับขึ้นมามากแล้ว และด้านส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (สเปรด) คาดว่าปัจจุบันราคาน้ำมันที่ย่อตัวลงมา ทำให้เสปรดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้มากขึ้นกว่าครึ่งปีแรก ช่วยหนุนกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ในช่วงครึ่งปีหลังได้ค่อนข้างมาก

นอกจากนั้น ค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามา 10% ในปัจจุบันจะเป็นอีกปัจจัยที่เข้ามาหนุนกำไรของบริษัทในครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะเห็นกำไรออกมาอย่างโดดเด่น

แม้ว่าดีมานด์ในกลุ่มประเทศเอเชียจะได้รับผลกระทบบ้างจากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ทำให้หลายประเทศในเอเชียมีมาตรการควบคุมเข้มงวดออกมา แต่บริษัทมองว่าไม่ได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากสัดส่วนยอดขายในเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ามากเท่ากับประเทศอื่นๆ ทำให้ดีมานด์ยังอยู่ในระดับสูงมากที่สุดในเอเชีย อีกทั้งบริษัทมีสัดส่วนยอดขายในเอเชียไม่มากเมื่อเทียบกับยอดขายในสหรัฐฯและยุโรป เดลต้า

ส่วนดีลการซื้อกิจการโรงงานผลิตสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) ในบราซิล มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันยังอยู่การเจรจาเพื่อสรุปดีล ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ามีแหล่งทุนเพียงพอรองรับการลงทุนดังกล่าว ดดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ทั้งกระแสเงินสดยังอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังมีความสามารถในการกู้ยืม เนื่องจากบริษัทพยายามเดินหน้าลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) มาต่อเนื่อง เพื่อให้ D/E ในสิ้นปีนี้ลดลงมาเหลือ 1.27 เท่า จากที่ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2.2 เท่า ซึ่งหากมีการกู้ยืมบริษัทจะพยายามควบคุม D/E ให้ไม่ให้กลับมาเกิน 2 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ