CONSENSUS: โบรกฯต่างเชียร์ ซื้อ TIDLOR คาดหวังผลงาน H2/64 โตต่อ-ราคาหุ้นปรับฐานแล้ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 10, 2021 13:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) แนวโน้มครึ่งปีหลังโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากความต้องการใช้สินเชื่อยังเพิ่มขึ้นในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 อีกทั้งการได้เงินจากการนำระดมทุนเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ทำให้บริษัทมีความสามารถในการปล่อยสินเชื่อและขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของบริษัทในระยะต่อไปได้

ขณะเดียวกัน TIDLOR ยังกระจายธุรกิจประกันเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในอนาคต แม้ว่าปัจจุบันยังมีสัดส่วนยังไม่มาก แต่ยังมองว่าจะเข้ามาช่วยผลักดันต่อยอดการเติบโตในกับบริษัทในระยะต่อไปได้

นอกจากนี้ ราคาหุ้น TIDLOR ปรับฐานลงมาสะท้อนโอกาสของการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อยลงแล้ว ซึ่งมองว่าไม่ส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เพราะอัตราดอกเบี่ยสินเชื่อของบริษัทอยู่ในระดับต่ำกว่าเพดานพอสมควร ทำให้ราคาที่ปรับลงมาเป็นโอกาสเข้าซื้อลงทุน

หุ้น TIDLOR ปิดเช้าที่ 39 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ดัชนี SET ปิดเช้าบวก 0.50%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ            ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เคทีบีเอส                       ซื้อ                 57.00
          ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)     ซื้อ                 56.00
          โนมูระ พัฒนสิน                   ซื้อ                 53.00
          ธนชาต                         ซื้อ                 53.00
          กสิกรไทย                       ซื้อ                 51.75
          เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)     ซื้อ                 50.00
          เอเซีย พลัส                     ซื้อ                 44.00
          ทิสโก้                          ซื้อ                 42.00

นายเอนกพงศ์ พุทธาภิบาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มของ TIDLOR ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่ามีทิศทางเติบโตขึ้น จากภาพรวมของเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยังมีความต้องการใช้สินเชื่ออยู่ค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และการขยายสาขาให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างๆมากขึ้น หลังจากได้รับเงินจากการระดมทุน IPO เข้ามาแล้ว ทำให้คาดว่าการปล่อยสินเชื่อจะยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 2/64 ที่คาดว่าจะเติบโต 4%

อย่างไรก็ตาม โอกาสการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถลงมาราว 1-2% มองว่ากระทบต่อกำไรของบริษัทเพียงเล็กน้อย เพราะอัตราดอกเบี้ยของกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในพอร์ตของ TIDLOR อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเพดานในปัจจุบันที่ 24% พอสมควร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 18% ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยหากมีการพิจารณาปรับลดจริงจะกระทบกำไรเพียง 1-2% เท่านั้น แต่ในภาพรวมยังมองกำไรปี 64 ยังเติบโตได้ดีที่ 25% และราคาหุ้นยังปรับฐานลงมาค่อนข้างมาก ทำให้มีอัพไซด์ที่น่านใจ

ด้านนายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย มองว่า TIDLOR ถือว่ายังเป็นหุ้นในกลุ่มลิสซิ่งที่มีความน่านสนใจในเรื่องของการเติบโตของธุรกิจที่มีความโดดเด่นมากขึ้นหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว จากการที่ได้รับเงิน IPO เข้ามาช่วยสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจทั้งการปล่อยสินเชื่อและการขยายสาขา

แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยเชื่อว่ายังเห็นการเติบโตสินเชื่อต่อเนื่องในทุกไตรมาส ในไตรมาส 3/64 สินเชื่อจะเติบโตขึ้นจากไตรมาส 2/64 ที่คาดว่าเติบโต 4-6% จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ยังมีความต้องการใช้สินเชื่ออยู่ค่อนข้างมากในภาวะเศราฐกิจยังไม่ฟื้นขึ้น

ขณะเดียวกัน TIDLOR ยังมีธุรกิจนายหน้าขายประกันออนไลน์ที่เพิ่งเริ่มต้นมาไม่นาน สามารถสร้างรายได้เข้ามาให้กับบริษัทได้ค่อนข้างดี แม้ว่าจะยังมีสัดส่วนไม่มาก แต่จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มองว่าจะเข้ามาช่วยผลักดันการเติบโตของ TIDLOR ในอนาคตได้

อีกทั้งราคาหุ้นของ TIDLOR ในปัจจุบันได้ปรับฐานลงมา ตามทิศทางเดียวกันหุ้นในธุรกิจเดียวกัน จากการรับข่าวเรื่องการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อยบางประเภท ซึ่งจะกระทบต่อสินเชื่อจำนำทะเบียนรถไม่มาก เพราะอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันที่เรียกเก็บรนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าเพดานที่ 24% ต่อปี ค่อนข้างมาก ทำให้ไม่กระทบกำไรของบริษัทมาก และยังมองว่ากำไรในปีนี้จะเติบโตได้สูงถึงเกือบ 40% จากปีก่อน

ส่วนนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของ TIDLOR ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก แม้ว่าบริษัทจะไม่เร่งการปล่อยสินเชื่อมากในสถานการณ์ที่ยังมีปัจจัยจากโควิด-19 เข้ามากดดัน เพื่อควบคุมคุณภาพของสินเชื่อในพอร์ต แต่ตลาดยังมีความต้องการใช้สินเชื่ออยู่ค่อนข้างมาก ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ซึ่ง TIDLOR ยังเป็นผู้นำในตลาดนี้ ทำให้ทิศทางของสินเชื่อยังมีการเติบโตขึ้นได้ต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง

นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าขายประกันเข้ามาเสริมรายได้หลัก แม้ว่ายังมีสัดส่วนไม่มาก แต่จะเป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยต่อยอดการเติบโตของธุรกิจในอนาคต อีกทั้งราคาหุ้นในปัจจุบันของ TIDLOR ได้ปรับลดลงมาตามทิศทางราคาหุ้นของกลุ่มลีสซิ่งพอสมควร ทำให้มองว่าเป็นโอกาสในการทยอยเข้าซื้อได้ ซึ่งการปรับตัวของราคาได้สะท้อนข่วการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยเสินเชื่อรายย่อย ที่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะได้รับผลกระทบไปด้วยไปแล้ว โดยที่ประเด็นดังกล่าวมองว่าไม่กระทบกำไรของบริษัทมาก เพราะอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทให้สินเชื่อกับลูกค้าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเพดานค่อนข้างมาก จึงไม่กระทบต่อกำไรของบริษัท และคาดว่ากำไรปีนี้จะเติบโตได้ 30%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ