ORI-JWD ผนึกรุก รง.-คลังสินค้าให้เช่า ALPHA เป้า 1 ล้านตร.ม.-เข้าตลาดหุ้นปี 68

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 30, 2021 13:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ร่วมทุน บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) ก่อตั้ง บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด ในสัดส่วน 50 : 50 เพื่อผสานจุดแกร่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมพร้อมบริการครบวงจรภายใต้แบรนด์ แอลฟา (ALPHA) ตั้งเป้า 5 ปีขึ้นแท่น Top 3 ด้วยพื้นที่โรงงานและคลังสินค้ากว่า 1 ล้าน ตร.ม. ผ่านการพัฒนาเองและการควบรวมกิจการ พร้อมมูลค่า REIT กว่า 12,000 ล้านบาท นำร่องลุยโครงการแรกย่านบางนาไตรมาส 2/64 ก่อนผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 68

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI กล่าวว่า บริษัทมีความชำนาญด้านการหาที่ดิน การจัดการต้นทุนในการพัฒนาโครงการ มีพันธมิตรด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในฝั่ง B2C และพันธมิตรอย่าง JWD ก็มีความเชี่ยวชาญเรื่องการบริหารคลังสินค้า บริการที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ มีเครือข่ายที่แข็งแรงอยู่ทั่วอาเซียน ตลอดจนมีฐานลูกค้าที่กว้างขวางโดยเฉพาะในฝั่ง B2B ความร่วมมือระหว่าง ORI และ JWD ในครั้งนี้ถือเป็นการผสานความแข็งแกร่งของทั้งคู่เข้าด้วยกันในการตอบโจทย์ตลาดอย่างครบวงจรทั้งในฝั่ง B2B และ B2C

"เราเชื่อมั่นว่าความแข็งแกร่งของทั้งคู่จะนำพา ALPHA ให้สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายในปี 68 และก้าวขึ้นเป็น Top 3 ของธุรกิจนี้ได้ภายใน 5 ปี"นายพีระพงศ์ กล่าว

การร่วมทุนในธุรกิจการให้บริการคลังสินค้าให้เช่ากับ JWD เป็นการสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจเข้ามาเสริมการเติบโตให้กับ ORI ในระยะต่อไป โดยประเมินว่า ALPHA จะสร้างรายได้และกำไรเข้ามาให้กับ ORI ในสัดส่วนราว 10% ภายในปี 68 เป็นต้นไป โดยที่จะมีการนำสินทรัพย์ที่เป็นคลังสินค้าให้เช่าของ ALPHA ทยอยเสนอขายเข้ากองทรัสต์ (REITs) เฉลี่ยปีละ 200,000 ตารางเมตร เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ไปต่อยอดการลงทุนทั้งการลงทุนเองและการเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในและต่างประเทศ

ด้านนายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวเพิ่มเติมว่า ALPHA จะมุ่งดำเนินงานใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. อสังหาริมทรัพย์ภาคอุตสาหกรรม (Industrial Property) เช่น คลังสินค้า ศูนย์โลจิสติกส์ สวนอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม ระบบการจัดการคลังสินค้าออนไลน์ (Order Fulfillment) 2. อสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนเมือง (Urbanized Property) เช่น บริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สิน (Self-Storage) ในคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร บริการคลังสินค้าออนไลน์ย่อย (Micro-fulfillment Center) 3. การบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ (Property Services) เช่ย กลุ่มพลังงาน กลุ่มการบำบัดน้ำเสีย กลุ่มก่อสร้าง

JWD มองว่าความต้องการด้านโลจิสติกส์โซลูชั่นในประเทศไทยยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้น และเฉพาะทางมากขึ้น โดย JWD และ ORI ได้นำ Total Solutions ที่แตกต่างจากตลาด ไม่ได้มีเพียงแค่หาที่ดินมาพัฒนาคลังสินค้า แต่จะมีทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ ระบบออโตเมชั่น หุ่นยนต์ และบริการที่ซับซ้อนอื่นๆ นำเสนอแก่ลูกค้าฝั่ง B2B หลากหลายประเภทธุรกิจ ขณะเดียวกัน จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคในโครงการที่อยู่อาศัยให้สามารถทำธุรกิจ e-Commerce จากที่พักอาศัยได้สะดวกยิ่งขึ้น

ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจของ ALPHA จะตอบโจทย์ความต้องการที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ได้อย่างครบวงจร

นอกจากนี้ ALPHA จะทยอยขยายในส่วนของ Self-Storage ในพื้นที่โครงการต่างๆของ ORI เพื่อขยายฐานลูกค้าออกไปยังกลุ่ม B2C มากขึ้น ซึ่งจะเริ่มการพัฒนาในส่วนของ Self-Storage ภายในปี 65 เป็นต้นไป เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าที่ทำ e-Commerce ที่พักอาศัยในโครงการต่างๆของ ORI ได้ใช้ประโยชน์ในการบริการจัดเก็บสินค้าใน Self-Storage พร้อมกับการพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าให้มีความรวดเร็วมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ทำ e-Commerce ในกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่ปัจจุบันความต้องการของลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าต้องการให้มีการส่งสินค้าที่รวดเร็ว โดยที่ในช่วงแรกจะพยายามพัฒนาบริการจัดส่งให้ได้ภายใน 1 วัน และจะพัฒนาการขนส่งให้รวดเร็วขึ้นภายใน 3 ชั่วโมง

ในช่วง 5 ปีนี้ ALPHA ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 2.3 พันล้านบาทเพื่อขยายคลังสินค้าให้เช่าแตะ 1 ล้านตารางเมตร และภายในปี 66 จะทยอยนำสินทรัพย์บางส่วนเสนอขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในธูรกิจอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เพื่อที่จะได้นำเงินมาใช้ในการต่อยอดการขยายธุรกิจในการลงทุนขยายพื้นที่เช่าคลังสินค้ารองรับการขยายตัวของธุรกิจในช่วง 3-5 ปี ซึ่งจะมีทั้งการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

นายปธาน สมบูรณสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจอาหารในช่วงโควิก-19 ประกอบกับนโยบายการสนับสนุนต่างๆ ของภาครัฐ เช่น นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นโยบายการส่งเสริมการผลิตรถ EV ตลอดจนความต้องการที่สูงขึ้นของกลุ่ม Urbanized Property ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัทจึงใช้จุดแตกต่างทั้งด้านความยืดหยุ่นและความสามารถนำเสนอ Logistics Solution ที่ซับซ้อน ทันสมัย และครบวงจร เจาะตลาดลูกค้าเป้าหมายหลัก 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มอีคอมเมิร์ซ 2.กลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ห้องควบคุมอุณหภูมิ (Cold Storage) เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ยา และเวชภัณฑ์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 3. กลุ่มเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย 4. กลุ่มธุรกิจยานยนต์และ EV 5. กลุ่ม Urbanized property 6. กลุ่ม Data Center

การเติบโตของ ALPHA ในช่วง 5 ปีนี้จะเป็นการเติบโตด้วยตัวเอง (Organic Growth) ในสัดส่วน 60% ผ่านการพัฒนาพื้นที่เอง 120,000 ตารางเมตร/ปี และการเติบโตแบบ Inorganic Growth ในสัดส่วน 40% ผ่านการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) เพื่อเพิ่มพื้นที่ราว 80,000 ตารางเมตร/ปี ซึ่งจะทำให้สามารถขยายพื้นที่เฉลี่ย 200,000 ตารางเมตร/ปี มองทำเลหลากหลาย ได้แก่ 1. กลุ่มคลัสเตอร์ภาคอุตสาหกรรม เช่น โซนบางนา แหลมฉบัง ระยอง และวังน้อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะมุ่งเป็นกลุ่มแรก 2.กลุ่มคลัสเตอร์ระดับภูมิภาค เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ 3. กลุ่มศูนย์กลางธุรกิจ (CBDs) ในกรุงเทพฯและหัวเมืองหลัก 4. กลุ่มตลาดต่างประเทศ เน้นประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในระดับสูง เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย กัมพูชา คาดว่าจะเห็นความชัดจนในช่วง 2-3 ปี เริ่มจากอินโดนีเซียและเวียดนาม

"เราจะเริ่มบุกด้วยทำเลที่มีความต้องการสูงและออริจิ้นเชี่ยวชาญอยู่แล้วอย่างโซนบางนา-EEC ขณะเดียวกัน การจะขยายไปยังตลาดต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะ JWD มีการลงทุนและพันธมิตรทั้งในเวียดนามและอินโดนีเซียอยู่แล้ว เราจึงน่าจะสร้างทั้ง Organic Growth และ Inorganic Growth จนมีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้ารวม 1 ล้านตารางเมตรได้ตามเป้า"นายปธาน กล่าว

โครงการแรกของ ALPHA คือ แอลฟา บางนา กม.22 (ALPHA Bangna KM.22) ขนาด 24 ไร่ บน ถนนบางนา ตราด กม.22 เป็นคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบ Multi-temperature ตัวอาคารสูงพิเศษกว่า 23 เมตร และเป็นโครงการแรกของไทยที่เป็นคลังสินค้าออนไลน์สำหรับธุรกิจ E-Commerce แบบควบคุมอุณหภูมิ (Temperature-Controlled Fulfillment Center) รองรับระบบการจัดเก็บอัตโนมัติ (ASRS) ขนาดพื้นที่กว่า 22,000 ตารางเมตร เริ่มก่อสร้างปลายไตรมาส 2/64 คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/65

ส่วนโครงการต่อมา เป็นคลังสินค้าแบบ Buit-to-Suit อีก 2 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 500 ล้านบาท ทำเลบางนา-บางพลี พื้นที่เช่า 70,000-80,000 ตารางเมตร และ โครงการวังน้อย พื้นที่เช่า 60,000 ตารางเมตร จะทยอยเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/64 และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ราวไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป โดยในสิ้นปี 64 ธุรกิจของ ALPHA จะมีพื้นที่เช่ารวมในช่วงเริ่มต้นราว 150,000-200,000 ตารางเมตร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ