MICRO มั่นใจพอร์ตสินเชื่อปีนี้โตตามเป้า 30% หลังโควิดไม่กระทบดีมานด์สินเชื่อรถบรรทุก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 3, 2021 13:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกานต์ดนัย ชลสุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการด้านบัญชีและการเงิน บมจ.ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าปีนี้พอร์ตสินเชื่อจะเติบโตได้ 30% ตามเป้าที่ตั้งไว้ หรือราว 4,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 5,000 ล้านบาทในปี 65 หลังช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้เพิ่มมาที่ 3,134 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ไม่ได้มีผลกระทบต่อดีมานด์สินเชื่อรถบรรทุก เห็นได้จากภาคการส่งออกและธุรกิจด้านโลจิสติกส์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยาย 4 สาขา ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาในพื้นที่ สมุทรปราการ, ปทุมธานี, แพร่ และ ปราจีนบุรี ส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา แต่เนื่องจากยังคงเห็นการเติบโตของสินเชื่อรถบรรทุกอีกมาก ประกอบกับต้องการดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง บริษัทจึงวางแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาในไตรมาส 4/64 ในทำเล จังหวัดแพร่, ภาคตะวันออก หรือ ภาคอีสาน สำหรับในปี 65 วางแผนขยายเพิ่มอีก 4 สาขาเช่นกัน

สำหรับการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นสุดไตรมาส 2/64 ยังอยู่ที่ระดับ 3.74% ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าจะให้อยู่ที่ราว 3% โดยบริษัทมีการควบคุมและคัดกรองสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ มีการจ้าง Outsource และเพิ่มทีมติดตามมาช่วยควบคุมเรื่อง NPL ได้ดียิ่งขึ้น และยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่น มีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้และพักชำระหนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้เข้ามา โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 ได้มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิต เพื่อสนับสนุนแผนกลยุทธ์หลักของบริษัทในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกมือสองให้ครบวงจร และเป็นรากฐานที่ก่อให้เกิดพลังผนึกระหว่างบริษัทและนำไปสู่ระบบนิเวศธุรกิจที่สมบูรณ์ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4/64

"แม้จะเผชิญการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ภาคการส่งออกยังเป็นสิ่งที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ยังไปต่อได้อยู่ ดีมานด์สินเชื่อรถบรรทุกจึงเติบโตต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีหลังแม้เดือน ก.ค.-ส.ค.จะเผชิญปัญหาฤดูฝนซึ่งอาจจะทำให้คนไม่นิยมออกรถในช่วงนี้ แต่หลังเดือนก.ย.ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต และประเทศไทยยังเดินหน้าฉีดวัคซีน พร้อมรับการเปิดประเทศ จึงคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีสถานการณ์ที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก" นายกานต์ดนัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ