(เพิ่มเติม) UV คาดรายได้ Q4 ดีกว่า Q3หลังรับรู้ฯธุรกิจสังกะสี,ทั้งปีใกล้เคียงปี 49

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 13, 2007 14:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางอรดี ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูนิ เวนเจอร์(UV) คาดว่า รายได้รวมในปี 50 จะใกล้เคียง 1,559 ล้านบาทในปีก่อน โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,113 ล้านบาท 
"รายได้รวมทั้งปีคงไม่ต่างจากปีที่แล้ว บวกลบนิดหน่อย" นางอรดี กล่าว
ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/50 คาดว่ารายได้จะสูงกว่าไตรมาส 3/50 เนื่องจากบริษัทเข้าประมูลงานใหม่ในธุรกิจสังกะสีออกไซด์ จากที่ไม่มีงานใหม่เข้ามาในช่วงไตรมาสก่อน เนื่องจากราคาสังกะสีมีการแกว่งตัว
นางอรดี กล่าวว่า สาเหตุที่รายได้ของบริษัทลดลงในไตรมาส 3/50 เป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่นิ่ง บริษัทจึงไม่ได้ประมูลโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ขณะที่โครงการเก่าขายไปหมดแล้ว จึงไม่มีโครงการใหม่ที่จะรับรู้รายได้เข้ามาเพิ่ม
ซึ่งแม้ว่าบริษัทมีรายได้ลดลง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นผลดีทำให้บริษัทไม่มีสต็อกมาก เมื่อเกิดวิกฤตความเชื่อมั่นจึงไม่ได้รับกระทบมากนัก ในทางกลับกันไม่ได้รับรู้รายได้ ก็ไม่ได้รับผลกระทบเหมือนกัน
สำหรับปีหน้า บริษัทคาดว่ารายได้คงยังทรงตัว โดยจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์เดิมที่มีมูลค่า 1.5 พันล้านบาท จากที่รับรู้ฯไปแล้ว 40-50% ในปีนี้ และขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อสินทรัพย์ประเภท NPA 4 โครงการเพื่อนำมาบริหาร แต่มูลค่ายังไม่ชัดเจน รวมทั้งมีที่ดินเปล่าอยู่ 1 แปลง ของบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด โดยจะเริ่มพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมหลังมีความชัดเจนเรื่องสถานการณ์การเมืองแล้ว
นางอรดี กล่าวต่อว่า รายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทจะเริ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากเข้าพัฒนาที่ดินบริเวณแยกวิทยุเพลินจิต ที่ได้รับสิทธิเช่าในระยะเวลา 30 ปี ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะพัฒนาเป็นโครงการในรูปแบบโรงแรม
"รายได้ของบริษัทจะยัง swing ไปอย่างนี้ 2-3 ปีขึ้นๆลงๆ อยู่ แต่จะเริ่มแน่นอนหลังพัฒนาพื้นที่บริเวณวิทยุ ที่มีสัญญา 30 ปี แต่ตอนนี้ขึ้นกับการประมูล NPA และนำมาพัฒนาและธุรกิจสังกะสี" นางอรดี กล่าว
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทจะมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 78% ผ่าน 3 บริษัทในเครือ คือ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด ที่จะเน้นพัฒนาโครงการสูง โดยได้เพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 60% จากเดิม 33% ทำให้มีสิทธิในการบริหารจัดการเด็ดขาดขึ้น, บริษัท ปริญเวนเจอร์ จำกัด เน้นพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว และ บริษัท เลิศรัฐการ จำกัด ที่จะพัฒนาพื้นที่แยกวิทยุจำนวน 5 ไร่
ส่วนธุรกิจสังกะสีมีสัดส่วนรายได้ 12% พลังงาน 8% และอื่นๆ 2%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ