ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดตลาดเช้าปรับตัวลงตามตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆในวันนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติซับไพรม์ยังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีท นอกจากนั้น ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐก็ส่งผลกระทบต่อตลาดเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนหวั่นเกรงว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาอาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เศรษฐกิจยังลอยตัวอยู่ได้ สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ณ เวลา 08.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีสเตรทส์ไทม์ลดลง 61.29 จุด หรือ 1.8% แตะ 3,359.43 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 164.7 ล้านหุ้น มูลค่า 209.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มหลักที่ปรับตัวลง เนื่องจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นธนาคารใหญ่หลายแห่งของสหรัฐ และคาดการณ์ว่า ซิตี้กรุ๊ป อาจจำเป็นต้องตัดบัญชีหนี้สูญเพิ่มอีกราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หุ้นดีบีเอสกรุ๊ป ตกลง 40 เซนต์, หุ้นยูโอบี ลดลง 20 เซนต์ และ หุ้นโอซีบีซี ลดลง 10 เซนต์ หุ้นสิงคโปร์ เทเลคอมิวนิเคชั่นส์ ปรับลดลง หลังเทมาเส็ก โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดทางการค้าของอินโดนีเซีย หลังทำการถือครองข้ามบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ 2 แห่งในประเทศ เทมาเส็กต้องถอนการถือหุ้นจากหนึ่งในสองบริษัทดังกล่าว ซึ่งได้แก่ พีที เทลคอมเซล และ พีที อินโดแซท เพื่อยุติการถือครองข้ามบริษัทภายในสองปี โดยกรณีดังกล่าวส่งผลให้หุ้นสิงเทลลดลง 10 เซนต์