APCO ผุดไอเดียสะสมแต้มแลกซื้อหุ้นหวังเพิ่มสภาพคล่องคาดเริ่มกลางปี 65

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 11, 2021 16:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หลังจากมีแนวคิดในการส่งเสริมการขายด้วยการให้ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถสะสมคะแนนเพื่อนำมาแลกหุ้น APCO ซึ่งเป็นหุ้นที่ถืออยู่ในนามส่วนตัว

โดยปัจจุบัน "ตระกูลวิริยะจิตรา" มีหุ้นรวมทั้งสิ้น 387,764,644 หุ้น คิดเป็น 64.63% โดยจะมีการกำหนดให้สามารถแลกหุ้นได้ 2 ครั้งต่อปี และจะเริ่มการแลกหุ้นได้ในช่วงกลางปี 65

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) ของ APCO ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย ณ วันที่ 8 มี.ค. 64 อยู่ที่ 3,066 คน และมีสัดส่วนอยู่ที่ 30.78%

ด้านผลประกอบการของบริษัทในปี 65 บริษัทคาดรายได้จะเติบโตได้ดีกว่าปีนี้ เป็นผลจากการเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการทำตลาดสินค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้บริษัทวางแผนผลักดันการใช้นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีน เชื่อว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้น และก้าวสู่การเป็นผู้นำ Health Care BioTech ของไทย

บริษัทยังมีแผนขยายฐานผู้ใช้นวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตรสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS จะมุ่งเน้นช่วยผู้มีปัญหาในต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 38 ล้านคนทั่วโลก โดยจะมีการจัดตั้ง International Center for Plant-based HIV Functional/Eradication Cure ด้วยระบบ Remote Monitoring (ติดตามผลทางออนไลน์)

ขณะที่สูตรสำหรับผู้ป่วยมะเร็งจะมีการนำไปใช้ในศูนย์ภูมิคุ้มกันบำบัดร่วมกับสถาบันทางการแพทย์ หรือ หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเอง โดยศูนย์นี้จะให้บริการกับผู้มีปัญหาการแพ้ภูมิตัวเองในสูตรที่ปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุลด้วย

ด้านธุรกิจหลักในประเทศ บริษัทจะเน้นการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ย้อนวัย ชะลอวัย และทำให้อายุยืน มุ่งเน้นทำตลาดผ่าน Social Media รวมถึงการขายผ่านศูนย์ BIM Health Center และตัวแทนตำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักลงทุนที่สนใจ

"ทิศทางผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้บ้าง แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กระทบกำลังซื้อในข่วงที่ผ่านมา ทำให้ผลประกอบการปี 64 ทำได้แค่ทรงตัว แต่ในปี 65 ด้วยสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายและเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่หนุนให้แนวโน้มมีการเติบโตได้แน่นอน"นายพิเชษฐ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ