MST คาดปี 65 รักษามาร์เก็ตแชร์ 5-5.5%ใกล้เคียงปีนี้ ให้เป้า SET 1,750 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 22, 2021 15:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวอารียา กาญจนบัตร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) (MST) เปิดเผยว่า บริษัทคาดส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ปี 65 ของ MST จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 5-5.5% ใกล้เคียงกับปัจจุบัน โดยในช่วง 9 เดือนของปี 64 ตลาดหลักทรัพย์ของไทยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 89,578 ล้านบาท/วัน โดยเป็นการซื้อขายของนักลงทุนบุคคลที่ 45,600 ล้านบาท/วัน โดยสัดส่วนของนักลงทุนบุคคลเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48% ขณะที่ลูกค้าหลักของบริษัทคือนักลงทุนบุคคล จึงช่วยสนับสนุนทิศทางผลการดำเนินงานของบริษัทด้วย

นางสาวเนธิตา กระบวนรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่าย Institutional Sales เปิดเผยว่า MST มองเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 65 อยู่ที่ 1,750 จุด โดยมี EPS ที่ 94.2 บาท/หุ้น ระดับ P/E ที่ 18.6 เท่า บนสมมติฐานว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยจะอยู่ที่ราว 4% ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเป็น 31.70 บาท/ดอลลาร์ จากเฉลี่ย 33.00 บาท/ดอลลาร์ในปี 64 พร้อมคาดว่าจะคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ตลอดทั้งปี

เศรษฐกิจไทยจะได้รับปัจจัยหนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้นเร็วกว่าคาด หลังจากที่ได้มีการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง (Lockdown) แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่แต่ก็เชื่อว่าจะไม่รุนแรงมากเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ด้านการส่งออกฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ไตรมาส 4/64 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และประเทศไทยได้ขยายตลาดการส่งออกใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการส่งออกจะเป็นปัจจัยสำคัญหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 65 สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว MST มองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยในปีหน้าคาดว่านักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะเข้ามาราว 6 ล้านคน โดยยังไม่รวมกับนักท่องเที่ยวจีนที่หากสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยได้ จะเป็นส่วนเพิ่มให้ภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประเทศไทยมีการเติบโตขึ้นได้มากกว่าคาด "สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงมา และการกระจายการฉีดวัคซีนเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และเริ่มมีกระจายวัคซีนแข็ม 2-3 มากขึ้น แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะไม่น่ากลัวเหมือนกับสายพันธุ์เดลต้า และอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้"นางสาวเนธิตา กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ