CONSENSUS: (เพิ่มเติม) โบรกฯเชียร์ซื้อ OR เล็งผลงาน Q4/64 ฟื้นรับเปิดปท.-นอนออยล์หนุนโตต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 27, 2021 12:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเชียร์ "ซื้อ"หุ้น บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เล็งผลงาน Q4/64 ฟื้น ทั้งธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) หลังเปิดประเทศตั้งแต่พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณการขายน้ำมันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แม้จะเกิดการแทรกแซงราคาน้ำมันดีเซล หรือควบคุมไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร แต่ปัจจัยดังกล่าวจะถูกชดเชยด้วยปริมาณการขาย

ส่วนธุรกิจ Non-Oil ยังคงเติบโตต่อเนื่อง และคาดว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ก็น่าจะได้รับอานิสงค์จากการเดินทางภายในประเทศเข้ามาหนุนผลงานช่วงสุดท้ายของปีนี้ ขณะที่ปี 65 ก็น่าจะเติบโตกว่าปีนี้ หลังได้ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้ว

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ                ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บัวหลวง                       ซื้อ                         32.00
          หยวนต้า                       ซื้อ                         26.00
          เอเชีย พลัส                    ซื้อ                         29.00
          ฟินันเซีย ไซรัส                  ซื้อ                         36.00
          ทิสโก้                         ซื้อ                         34.00
          ทรีนิตี้                         ซื้อ                         32.00
          ยูโอบี เคย์เฮียน                 ซื้อ                         31.00

น.ส.สุพพตา ศรีสุข นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ในไตรมาส 4/64 คาดจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ทั้งธุรกิจน้ำมันและธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน หลังคลายล็อกดาวน์ในประเทศไทย ทั้งนี้ แม้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ด้วยในช่วงที่ผ่านมา OR ได้มีการแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคด้วยการชะลอการขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ทำให้กดดันต่อกำไรขั้นต้นของน้ำมัน แต่มองเป็นแค่ในระยะสั้นเท่านั้น โดยคาดว่ากำไรขั้นต้นน้ำมันต่อลิตรของ OR อาจอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่คาดว่าปริมาณการขายจะสูงขึ้น และชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้ ทำให้หนุนกำไรของธุรกิจน้ำมันในไตรมาส 4/64 เติบโตดีกว่าไตรมาส 3/64

ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ร้านสะดวกซื้อ และพื้นที่ให้เช่า ก็ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3/64 โดยปริมาณการขยายของ Cafe Amazon เพิ่มขึ้น 20% ไปอยู่ที่ 72 ล้านแก้วในช่วงของการคลายล็อกดาวน์ และคาดว่าจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จะเกิดการเดินทางกลับภูมิลำเนากันมากขึ้น ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยภายในสถานีบริการน้ำมัน PTT Satation โดยคาดกำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

อย่างไรก็ตามในปี 64 คาดรายได้ของ OR จะอยู่ที่ 495,106 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,376 ล้านบาท เติบโตกว่าปีก่อน ขณะที่ในปี 65 เบื้องต้นมองว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น หลังผ่านจุดที่แย่ในปีนี้ไปแล้ว ซึ่งก็จะทำให้ปริมาณการขายน้ำมัน หรือธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างการเจรจาพันธมิตร เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจที่จะเข้ามาต่อยอดการเติบโตซึ่งเบื้องต้นก็คาดว่ามีอยู่อีกหลายราย และในปีหน้าก็น่าจะเห็นความชัดเจนได้

สำหรับการลงทุนมองว่า ด้วยราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างน่าสนใจ หลังปรับตัวลงไปพอสมควรแล้ว ซึ่งสะท้อนผลกระทบในไตรมาส 2/64 และไตรมาส 3/64 โดยบล.บัวหลวง ยังคงแนะนนำซื้อ ในราคาเป้าหมายที่ 32 บาท/หุ้น

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาดผลประกอบการไตรมาส 4/64 จะสามารถฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการการคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง และการเปิดประเทศในเดือน พ.ย. ส่งผลให้ระดับการเดินทางภายในประเทศและการบริโภค รวมถึงปริมาณขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานฟื้นตัว อย่างไรก็ตามมองว่าภาพของการฟื้นตัวจะยังคงถูกจำกัดจากการแทรกแซงราคาน้ำมันจากทางภาครัฐในช่วงเดือน ต.ค. โดยการจำกัดค่าการตลาดน้ำมันดีเซล ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นต่อลิตรมีโอกาสปรับระดับลงจากไตรมาส 3/64 (OR มีสัดส่วนการจำหน่ายน้ำมันดีเซลที่ราว 47% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันในไตรมาส 3/64) โดยเบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 4/64 จะอยู่ที่ระดับ 1,800-2,200 ล้านบาท

หากมองไปปี 65 คาดผลประกอบการจะสามารถเติบโตได้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เริ่มคลี่คลาย ซึ่งจะเป็นผลให้ปริมาณขายน้ำมันทั้งในตลาดค้าปลีกและตลาดพาณิชย์เติบโตขึ้น ในส่วนของธุรกิจ Non-Oil คาดปริมาณขายในปี 65 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายสาขาของ Cafe Amazon และธุรกิจ F&B , อื่นๆ

ส่วน บล.เอเซีย พลัส ระบุคาดไตรมาส 4/64 จะเห็นกำไรกลับมาฟื้นตัว เมื่อเทียบจากงวดไตรมาส 3/64 ได้แรงหนุนจากเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว และมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันโดยรวมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ คาดจะกลับมาเติบโตหนุนปริมาณขายในธุรกิจน้ำมันให้เพิ่มขึ้น ซึ่งเบื้องต้นคาดจะชดเชยกำไรขั้นต้นเฉลี่ย/ลิตร (Marketing margin) ในประเทศไทยที่คาดจะปรับตัวลดลงจากงวดไตรมาส 3/64 จากมาตรการขอความร่วมมือของภาครัฐ เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันดีเซลในท้องตลาดได้ ประกอบกับธุรกิจ Non-0il คาดจะมีแรงหนุนจากการบริโภคของประชาชนที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว

https://youtu.be/Vg8VsOdJXwg


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ