HILITE: IVL ดีดขึ้น 4.40% รับการเข้าซื้อบริษัทในเวียดนามหนุนการเติบโตระยะยาว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 11, 2022 10:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาหุ้น IVL ปรับขึ้น 4.40% หรือเพิ่มขึ้น 2.00 บาท มาที่ 47.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 822.62 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.28 น.จากราคาเปิด 46.25 บาท ราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 47.75 บาท ราคาต่ำสุด 46.25 บาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อข่าวบมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ว่า บริษัท Indorama Netherlands B.V. (บริษัทย่อยของ IVL) อยู่ในขั้นตอนดำเนินการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดที่มีความเป็นไปได้ (tender offer) ของบริษัท Ngoc Nghia Industry - Service - Trading Joint Stock Company (NN) ซึ่งบริษัท NN เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาด Unlisted Public Company Market (UPCoM) ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ย่อย สำหรับหลักทรัพย์ที่ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลักและอยู่ภายใต้ตลาดหลักทรัพย์ฮานอย (HNX) หนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์แปรรูป PET ในประเทศเวียดนาม NN มีฐานการผลิตอยู่ในทางตอนเหนือและตอนใต้ของประเทศเวียดนาม ด้วยกำลังการผลิตทั้งหมดโดยประมาณอยู่ที่ 5.5 พันล้านหน่วยต่อปี (หรือประมาณ 76 พันตันต่อปี (kta) สำหรับการแปรรูป PET) โดยการทำ tender offer จะกำหนดราคาอยู่ที่หุ้นละ 26,219 เวียดนามดอง (VND) และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน VND2,138,709,734,372 หรือเทียบเท่าประมาณ 3,085 ล้านบาท

โดยมองว่าการเข้าซื้อ NN สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทในการเข้าไปทำธุรกิจในตลาดที่มีการเติบโตสูง เช่น เวียดนาม จากการสอบถามทางบริษัท คาดว่าดีลนี้จะมี EV/EBITDA ในช่วงที่สมเหตุสมผลที่ 7.9x-11.8x (เทียบกับ EV/EBITDA ค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังของ IVL ที่ 11.2x) และบริษัทคาดจะเห็นอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) ที่สองหลัก

ทั้งนี้ IVL คาดว่าดีลนี้น่าจะแล้วเสร็จภายในครึ่งแรกปี 65 และน่าจะใช้กระแสเงินสดภายในบริษัทในการทำธุรกรรมนี้ (IVL มีเงินสดในมือ 17.7 พันล้านบาทในไตรมาส 3/64) Synergy ที่เป็นไปได้ IVL คาดว่าจะสามารถเพิ่ม EBITDA margin ของ NN ให้สู่ระดับ 20% ได้เทียบกับ 16% ในปี 2563 โดยการปรับปรุงการดำเนินงานของ NN และการใช้อำนาจต่อรองทางการค้าจากการเป็นผู้ผลิต Integrated PET รายใหญ่

นอกจากนี้ เชื่อว่าบริษัทสามารถที่จะขาย PET resin จากฐานการผลิตในประเทศไทยได้อีกด้วย Upside เล็กน้อยต่อประมาณการกาไรทั้งปีของเรา เรายังคงประมาณกำไรปกติ 65 ที่ 20.4 พันล้านบาท (-18% YoY) จากสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ปีละ 5% บนรายได้รวม 2.2 พันล้านบาทในปี 63 และอัตรากำไรสุทธิ (net profits margin) ประมาณ 3% เราประเมินเบื้องต้นว่าดีลนี้จะสร้าง upside ต่อประมาณการกำไร 65 ของเราแค่ 0.2% เท่านั้น อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าการรุกเข้าไปในตลาดบรรจุภัณฑ์ของเวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่มีการเติบโตที่สูงจะเป็นประโยชน์กับ IVL ในระยะยาว

ยังคงคำแนะนา "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 55.00 บาท อิง EV/EBITDA 9.3x (-0.6SD ต่ากว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ