นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท (JMART) ประกาศตั้ง บริษัท เจ ดี กรุ๊ป จำกัด (JayDee Group) ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการดีลเลอร์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดทั่วประเทศ มาร่วมเสริมอีโคซิสเต็มของกลุ่ม JMART ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ปลุกตลาดค้าปลีกตามหัวเมืองต่างจังหวัด ผ่านฐานลูกค้าของดีลเลอร์ทั้งในรูปแบบเงินสดและเงินผ่อน พร้อมจัดเต็มด้านสินเชื่อ KB J และ SINGER ประกัน และโลจิสติกส์ร่วมกันกับ Kerry
ทั้งนี้ JMART มองเห็นศักยภาพการลงทุนด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบมาปฏิวัติอุตสาหกรรมค้าปลีกเข้าสู่รูปแบบดิจิทัล ตามวิสัยทัศน์ Technology Investment Holding Company รวมทั้ง ปรับกลยุทธ์ทำการตลาดแบบ Online-to-Offline (O2O) เพื่อผลักดันให้ค้าปลีกไทยหนีการถูกดิสรัปชันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ และเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าตามหัวเมืองทั่วประเทศให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี
และเปิดโอกาสสร้างพันธมิตรทางการค้าเพื่อซินเนอร์ยี่ร่วมกัน อาทิ การนำผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ ผลิตภัณฑ์ Solar Rooftop จาก JV Gunkul และสินค้าเทคโนโลยีของเจมาร์ทเข้ามาจัดจำหน่ายในร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เพิ่มเติม ทำให้การกระจายสินค้าครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทุกช่องทางมากยิ่งขึ้น และการเพิ่ม Service Zone เข้าไปในพื้นที่ของร้านค้าต่างๆด้วย
พร้อมด้วยบริการด้านการเงินครบวงจร ทั้งสินเชื่อของ KB J ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้, สินค้าและสินเชื่อเงินผ่อนของ SINGER อีกทั้ง การนำผลิตภัณฑ์ด้านประกันในกลุ่มเจมาร์ทเข้ามาต่อยอดการเติบโต นอกจากนี้ หากมีพันธมิตรที่ร่วมลงทุนสาขาใดพร้อมจะร่วมธุรกิจติดตามหนี้ก็สามารถเป็น Franchise หนึ่งของกลุ่ม JMART ได้ด้วย สนับสนุนโอกาสการเติบโตและการสร้างผลการดำเนินงานแบบ Exponential Growth
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่ม JMART ถือหุ้นใน เจ ดี กรุ๊ป ในสัดส่วน 24.99% ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท และในระยะเวลาถัดไปจะมีการเพิ่มทุนขึ้นเป็น 300 ล้านบาท ก่อนที่คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 67
"เราจะเริ่มด้วยกำไร จากการที่เรามีเทคโนโลยีด้านต่างๆ สนับสนุนทั้งระบบหน้าบ้าน ระบบหลังบ้าน และฐานข้อมูลที่จะช่วยให้เราสามารถดำเนินกิจการที่จะเริ่มต้นด้วยการมีกำไร และในอนาคตเรายังมองถึงการพัฒนาให้เราเข้าไปสู่ใน Metaverse ด้วย"นายอดิศักดิ์ กล่าว
JayDee Group เน้นจะเน้นตลาดกลุ่มลูกค้าหัวเมืองใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งจะเสริมโมเดลธุรกิจของ บมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) อีกหนึ่งธุรกิจในกลุ่ม JMART ให้ต่อยอดการเติบโตไปพร้อมกัน นอกจากนั้น ในจังหวัดที่เล็งเห็นว่ามีศักยภาพในการขยายตลาดนั้น ทาง JayDee Group ก็จะพิจารณาการเปิดสาขาเองเพิ่มเติมด้วย
นายยงยุทธ กล่าวว่า การที่ดีลเลอร์ฯ เข้ามาร่วมกับ JMART ในครั้งนี้จะช่วยให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ในขณะเดียวกัน ยังมีระบบบริหารจัดการของ JMART เข้ามาช่วยเหลือ และในอนาคตยังจะมีการใช้เหรียญ JFIN เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการซื้อสินค้าในร้านเพิ่มเติมด้วย บริษัทตั้งเป้าจะขยายสาขาพันธมิตรให้ครบ 100 สาขาภายในปี 65 จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ 14 สาขา ภายใต้ความร่วมมือกับดีลเลอร์เครื่องใช้ไฟฟ้า 8 ราย คือ 1. บริษัท กู๊ดดีล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กทม. 2. บริษัท มัลติ โปร เซ็นเตอร์ จำกัด กทม. 3. บริษัท พูนสิน จำกัด จ.กาญจนบุรี 4. บริษัท เดอะเกรท อิเลคทริค ซิตี้ จำกัด จ.สุพรรณบุรี 5. บริษัท เดอะเบสท์วัน ระยอง จำกัด จ.ระยอง 6. บริษัท นคร ดี ซี จำกัด จ.นครศรีธรรมราช 7. บริษัท สงวนพาณิชย์ เอวี จำกัด จ.สงขลา 8. หจก. สุรินทร์ จังหวัดนราธิวาส จ.นราธิวาส