ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้(3 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังจากที่ตลาดปิดพุ่งขึ้นเกือบ 4% ในการซื้อขายเมื่อ 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทำให้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เคลื่อนไหวพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงเปิดตลาด แต่ปัจจัยหนุนที่มีเข้ามาได้ทำให้นักลงทุนเทขายทำกำไรอย่างรวดเร็วและส่งผลให้ดัชนีเคลื่อนตัวอย่างผันผวนสลับกันระหว่างแดนบวกและแดนลบหลายครั้ง โดยนักลงทุนยังต้องใช้เวลาในการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ หลังจากที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเกาหลีใต้ในไตรมาสที่สามปรับตัวลดลง 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 1.4% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตปิดลดลง 3.57 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 1,902.43 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 1,888.08 - 1,912.71 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 286 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 4.8 ล้านล้านวอน คิม ซัง-บง นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ซัมซุงกล่าวว่า "แม้ตลาดจะปิดร่วงลงเล็กน้อยจากแรงเทขายทำกำไรในวันนี้ แต่ผมเชื่อว่า ภาพรวมของตลาดยังสดใส อย่างน้อยที่สุดก็ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจหนุนให้ดัชนีเคลื่อนไหวขึ้นแตะที่ระดับ 1,950 จุดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก" อย่างไรก็ตาม เขายังมีมุมมองในด้านบวกเพียงเล็กน้อยต่อแนวโน้มของตลาดในอนาคต เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่จะมาช่วยบดบังปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารปิดร่วงลงจากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งหุ้นกุ๊กมินปิดร่วงลง 2.1% และหุ้นชินฮาน ไฟแนนเชียลปิดทรุดตัวลง 1.7% หุ้นฮุนได เฮฟวี่ปิดลบ 2.7% หลังจากปิดบวกขึ้นแข็งแกร่งเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่หุ้นเอสเค เทเลคอมปิดพุ่งขึ้น 1.0% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่บริษัทประกาศบรรลุข้อตกลงในการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทฮานาโร เทเลคอม