นายสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จีสตีล(GSTEEL) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลงทุนโรงถลุงเหล็กที่ได้ใบอนุญาตจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กำลังการผลิต 3 หมื่นตันต่อปี มูลค่าเงินลงทุนเบื้องต้น 2.5 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เป็น 3 หมื่นล้านบาทจากวัสุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น           นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ระหว่างนี้บริษัทเจรจาพันธมิตรต่างประเทศ 4 ราย ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี่ รัสเซียและอินเดีย คาดว่าจะได้ข้อสรุป รวมทั้งการลงทุนภายใน 6 เดือนนี้           "กำลังดูอยู่ว่า GSTEEL จะถือเท่าไร ยังไงผู้ถือหุ้นไทยก็ต้องเป็น Major Sharholder อยู่แล้ว เรากำลังเจรจาพันธมิตรต่างประเทศเข้ามาช่วยกัน" นายสมศักดิ์ กล่าว           อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นิปปอนสตีล และ JFE ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากญี่ปุ่น บริษัท อาเซลอร์ ผู้ผลิตเหล็กยักษ์ใหญ่ระดับโลก และเป๋าสตีลจากจีน มีแผนที่จะยื่อขอบีโอไอลงทุนผลิตเหล็กในไทยเช่นกัน          ทั้งนี้ สถานที่ตั้งโรงงานถลุงเหล็กจะอยู่ใน จ.ระยอง ซึ่งห่างจากท่าเรือประมาณ  20-22 กม.ซึ่งถือว่าในแง่โลจิสติกส์จะลำบาก อาจต้องนำระบบรางเข้ามาช่วยในการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบ แต่กระบวนการผลิตบริษัทจะใช้เทคโนโลยีล่าสุด คาดว่าจะไม่เป็นปัญหา           สำหรับการลงทุนเหล็กแผ่นพิเศษที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์นั้น  ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากในไทยมีความต้องการใช้เหล็กพิเศษดังกล่าวเพียง 10 ล้านตัน ซึ่งถือว่าปริมาณยังน้อยเกินกว่าที่จะเข้าไปลงทุน          ในวันนี้ GSTEEL ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือกับบริษัท ดองบู สตีล (Dongbu Steel) จากเกาหลีใต้ ในการสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเหล็กรีดร้อนชนิดม้วนแบบครบวงจร ซึ่งดองบูสตีล เป็นผู้ผลิตเหล็กรีดเย็นรายใหญ่ในเกาหลีใต้ โดยคาดว่าจะริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 52  โดยก่อนหน้านี้ GSTEEL เคยถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับจีนและเวียดนาม           "ต่อไปเราจะเป็นพันธมิตรด้านการตลาดหรือการลงทุนกับ ดองบู สตีล นอกเหนือจากที่เราไปถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เขา" นายสมศักดิ์ กล่าว