ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,620.33 จุด เพิ่มขึ้น 5.84 จุด (+0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 73,889.75 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้เคลื่อนไหวผันผวนจากย่อตัวลงในภาคเช้าและรีบาวด์กลับขึ้นมาในภาคบ่าย โดยดัชนีเคลื่อไหวขึ้นไปทำระดับสูงสุด 1,622.17 จุด และต่ำสุดที่ 1,607.31 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,042 หลักทรัพย์ ลดลง 712 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 539 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน หลังจากที่ภาคเช้าปรับขึ้นไปแล้วย่อตัวลงมา และภาคบ่ายดัชนีเริ่มรีบาวด์กลับมายืนในแดนบวก โดยที่มอง ว่าส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยในประเทศที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการเริ่มกลับมาเปิดเมืองและเปิดประเทศมาก ขึ้น โดยที่จะเห็นว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองและการเดินทางท่องเที่ยวมีแรงซื้อเข้ามา และยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มที่ได้รับ ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูงช่วยหนุนดัชนี ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปิดตลาดปรับตัวขึ้นเช่นกัน
แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีแกว่งไซด์เวย์ หลังจากที่รับรู้ปัจจัยต่างๆไปมากแล้ว รวมถึงยังมีปัจจัยที่ยังต้องติดตามในการ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังอาจจกดดันตลาดได้ หลังจากถ้อยแถลงของประธานเฟดเมื่อคืนที่ออกมายังเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ให้แนวต้าน 1,625-1,630 จุด แนวรับ 1,600-1,605 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,683.51 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,930.72 ล้านบาท ปิดที่ 144.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,753.33 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,451.45 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,250.61 ล้านบาท ปิดที่ 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท