(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวด์หลังบอนด์ยิลต์ทรงตัว คาดหวังจีนทุ่มงบกระตุ้นศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 20, 2022 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวด์ หลังตัวชี้วัดตลาดทางการเงินดีขึ้น อาทิ เงินดอลลาร์อ่อนค่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ(Bond Yield) ทรงตัว ขณะที่ตลาดคาดหวังจีนคลายล็อกดาวน์และมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดใช้วงเงินสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ให้ติดตามการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่วันนี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับสีแต่ละพื้นที่ น่าจะทำให้มีโอกาสแต่ละจังหวัดพิจารณาเปิดผับบาร์ที่ขึ้นกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ก็น่าจะทำให้เศรษฐกิจมีทิศทางดีขึ้น

ให้แนวรับ 1,590 จุด แนวต้านที่ 1,625 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (19 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,253.13 จุด ลดลง 236.94 จุด หรือ -0.75% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,900.79 จุด ลดลง 22.89 จุด หรือ -0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,388.50 จุด ลดลง 29.66 จุด หรือ -0.26%

  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,448.23 จุด เพิ่มขึ้น 45.39 จุด หรือ +0.17% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,470.95 จุด เพิ่มขึ้น 350.27 จุด หรือ +1.74% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,107.09 จุด เพิ่มขึ้น 10.13 จุด หรือ +0.32%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 พ.ค.) ที่ระดับ 1,605.98 จุด ลดลง 14.35 จุด, -0.89%
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 536.03 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ค.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(19 พ.ค.)เพิ่มขึ้น 2.62 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 112.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 พ.ค.) อยู่ที่ 16.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.46 แข็งค่าหลังดอลลาร์อ่อนค่าจากขาดปัจจัยหนุน จับตาประชุมศบค.วันนี้
  • นายกฯนำทีมโชว์ ฟื้นประเทศ ชู 4 ประเด็นดันเศรษฐกิจ หลังโควิด ผู้ว่าธปท.ส่งสัญญาณอัตราดอกเบี้ยต่ำ ยืนยันไม่ขึ้นตามเฟด กังวลเงินบาทผันผวนฉุดเอสเอ็มอี สศช.แนะไทยรับมือความไม่แน่นอนของโลก พึ่งตัวเอง ด้านอาหาร-ปุ๋ย "ชโยทิต" กางแผนลุยดึง อีวีลงทุน 3.6 แสนล้าน "อีไอซี" ชี้ไทยกำลังเผชิญวิกฤติซ้อน แนะผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว ส.อ.ท.หวั่นเทคโนโลยีไล่ล่าอุตสาหกรรมเก่า
  • เคาะวันนี้ ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 1 เดือน พร้อมลดการเตือนภัย "โควิด-19" เหลือ ระดับ 2 ปลายพ.ค. พร้อมผ่อนคลายมาตรการปรับเพิ่มพื้นที่สีเขียว 17 จังหวัด ผู้ประกอบการลุ้นเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์คาราโอเกะ เร่งฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ สร้างภูมิคุ้มกันป้องกันเสียชีวิต แนะประชาชนปรับพฤติกรรมสุขภาพเน้นย้ำมาตรการ VUCA เพื่ออยู่ร่วมกับโรคโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
  • 3 องค์กรอุตสาหกรรมอาหารเผยไตรมาสแรก ไทยส่งออกอาหารกว่า 2.86 แสนล้าน รับหลายประเทศรีโอเพนนิ่ง คาดทั้งปีมูลค่าโต 1.2 ล้านล้าน ส.อ.ท.มองสงครามยูเครน-รัสเซีย ยื้อยาว 1-3 ปี เน้นค้าขายอาเซียน โดยเฉพาะชายแดน
*หุ้นเด่นวันนี้
  • AOT (เคทีบีอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 72.00 บาท "นักท่องเที่ยง-การเดินทางฟื้นต่อเนื่อง รับการปรับมาตรโควิด"
จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศฟื้นต่อเนื่อง ทั่วโลกผ่อนคลายนโยบายการเดินทาง ไทยลุ้นปรับโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นเร็วกว่าคาด
จับตาการปรับมาตรการ Thailand Pass ยิ่งปลดล็อคเร็ว ต่างชาติยิ่งเข้าเร็ว (พร้อมเข้ามามาก) สำหรับปี 65/66 คาดผู้โดยสารที่ 41 ล้านคน และ 90 ล้านคน ตามลำดับ KTBST ประเมินผลการดำเนินงานปี 2565 ขาดทุนที่ 1.07 หมื่น ลบ. และปี 2566 ที่ 6.79 พัน ลบ. พลิกจากขาดทุนในปีนี้
  • TOP (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 63 บาท เก็งกำไรรับข่าวโรงกลั่น S-Oil ในเกาหลีใต้เกิดเหตุไฟไหม้ โดยโรงกลั่นดังกล่าวมีกำลังการผลิต 530,000 บาร์เรลต่อวัน ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาหลีใต้ คาดปัจจัยนี้จะยังหนุนให้ค่าการกลั่นในภูมิภาคจะยังทรงตัวในระดับสูงจากภาวะซัพพลายที่ตึงตัว
  • BEM (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.98 บาท หลังเผยงบไตรมาส 1/65 กำไร 3.1 พันล้านบาท (+1.1%QoQ,-0.5%YoY) ภาพรวมปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อ โดย EPS Consensus ปี 65 นี้คาดไว้ราว 0.18 บาทต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าปี 64 ที่ทำไว้ 0.07 บาทต่อหุ้น แรงหนุนจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกที่ รฟม.อยุ่ในระหว่างจัดทำเอกสารประกวดราคาและคาดเริ่มหาเอกชนร่วมลงทุนได้ภายในเดือนนี้ และจะเข้าพิจารณาคาดแล้วเสร็จ ส.ค.นี้ นอกจากนี้ยังคาดหวังต่อความคืบหน้า รฟฟ.ส่วนต่อขยายอื่น เช่นสายสีม่วงใต้ ขณะที่แรงหนุนจากการ Re-Opening ที่คาดหนุนให้จำนวน Traffic ของผู้ใช้ทางด่วน และรถไฟฟ้า จะขยับตัวเพิ่มขึ้นต่อในช่วงไตรมาสที่เหลือของปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ