TPIPL เน้นลดต้นทุน-เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตดัน EBITDA,เล็งโดดชิงโรงไฟฟ้า VSPP

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 23, 2022 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวจุฬารัตน์ ด่านวัฒนชัย รองผู้จัดการใหญ่สายบัญชีและการเงิน บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) กล่าวว่า การดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ กลุ่มทีพีไอ โพลีน จะขับเคลื่อนด้วย 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจซีเมนต์ โดยที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงเตาเผา และลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำเชื้อเพลิงขยะมาใช้แทนถ่านหิน 40% คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 2/65 และจะลดต้นทุนได้ถึง 700 ล้านบาท หรือเต็มปีราว 1,400 ล้านบาท/ปี อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบ Aggregate and CDE plants คาดแล้วเสร็จในปีนี้ และจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 120 ล้านบาท

ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก (LDPE) และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาวน้ำ (EVA) บริษัทจะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ทำให้ไตรมาส 2/65 จะสามารถขยายกำลังการผลิตได้เต็ม 100% และก่อให้เกิดกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปีละ 200-300 ล้านบาท/ปี

ขณะเดียวกันกาวผง หรือ EVA powder จะขยายกำลังการผลิตให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/65 ซึ่งจะช่วยให้ EBITDA เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 40-60 ล้านบาท รวมถึงยังมีกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่า (New value added products) คาดจะเสร็จในไตรมาส 3/65 ซึ่งในส่วนนี้จะมี EBITDA เพิ่มขึ้น 15-25 ล้านบาท/ปี โดยธุรกิจเม็ดพลาสติกยังคงรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรในระดับสูง หรือมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 30-40% ตามเดิม

ส่วนธุรกิจ Power Plant ได้มีการลดต้นทุนการผลิต RDF ราว 247 บาท/ตัน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลง 247 ล้านบาท/ปี โดยทางโรงงานแจ้งว่าจะสามารถลดต้นทุนลงได้อีกประมาณ 10-15% ซึ่งจะทำให้สามารถประหยัดได้มากกว่าเดิม ขณะเดียวกันค่า FT ที่ปรับเพิ่มขึ้น จะทำให้บริษัทฯ รับรู้ EBITDA เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 599 ล้านบาท และเชื่อว่าเดือนก.ย.-ธ.ค.65 คาดว่าภาครัฐจะ ปรับขึ้นค่า FT ตามราคาน้ำมันและก๊าซที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อ EBITDA ปรับตัวขึ้นได้อีก

นอกจากนี้ยังมีการนำเชื้อเพลิงขยะ มาแทนถ่านหิน คาดก่อให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายราว 538 ล้านบาท และจะได้ EBITDA จากการนำ RDF ขายให้กับ TPIPL รวมถึงยังมีการลดต้นทุนการบริหารจัดการ และโรง RDF ที่สงขลาและนครราชศรีมา จะ COD ในปี 67 ซึ่งแต่ละโรงจะมี EBITDA โรงละ 300 ล้านบาท/ปี และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) น่าจะทยอยประกาศ TOR โรงไฟฟ้า VSPP บริษัทฯ ก็คาดว่าจะมีส่วนร่วมในการประมูลต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ