โบรกฯระบุตลาดไม่ตื่นเต้นศาลรับฟ้องใบแดง"ยงยุทธ"ห่วงปัจจัยภายนอกมากกว่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 20, 2008 15:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกฯ ระบุ ตลาดหุ้นไทยไม่ได้เคลื่อนไหวรับข่าวกรณีศาลฎีกาฯรับพิจารณาคำฟ้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่ขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ซึ่งอาจนำไปสู่การพิจารณายุบพรรคพลังประชาชน เพราะมองว่าขั้นตอนทางกฎหมายยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง มองการเมืองในประเทศกดดันอยู่บ้าง แต่ปัญหาใหญ่กว่าอยู่ที่เศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย ปรับตัวลงต่อเนื่องมาที่ 797.16 จุด ลดลง 10.51 จุด หรือ -1.30% เมื่อ 15.16 น.จากภาคเช้าที่ปิดลบ 8.24 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า กรณีที่ศาลรับฟ้องไม่น่าจะพลิกล็อค เพราะรับรู้อยู่แล้วว่าคงโดนใบแดงแน่นอน และจะสังเกตว่าตลาดหุ้นบ้านเราค่อนข้างอ่อนตัวมากกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านตั้งแต่วานนี้ ดังนั้นเรื่องใบแดงอาจจะมีผลในแง่ sentiment บ้าง แต่วันนี้ตลาดลงมาพอสมควรแล้วตั้งแต่เช้า คิดว่าปัจจัยต่างประเทศมีน้ำหนักมากกว่าในประเทศ
สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐที่ลุกลามไปจนกระทั่งภาคการเงินไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ และฉุดลากให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยยาวนานกว่าที่เคยประเมินไว้ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าปัญหานี้จะจบลงเร็ววัน
"การเมืองในประเทศมีน้ำหนักบ้างแต่คิดว่าซึมซับเข้าไปพอสมควรแล้ว ส่วนเรื่องม็อบ ณ ขณะนี้เงื่อนไขยังไม่สุกงอมเพียงพอ เป็นลักษณะของไฟสุมขอนมากกว่า แค่สะสมกำลังกันอยู่ตอนนี้ ยังเร็วเกินไป" นายพิชัย กล่าว
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ กล่าวว่า ประเด็นที่ศาลรับคำฟ้องไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับตลาดหุ้น เพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล แต่คงต้องติดตามต่อไปว่าประเด็นนี้จะขยายวงกว้างไปถึงขั้นยุบพรรคพลังประชาชนหรือไม่ หากจำกัดวงอยู่ที่นายยงยุทธเพียงคนเดียวก็ไม่มีผลต่อตลาดหุ้น ไม่ได้ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลมีปัญหา เพียงแค่หาประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่เท่านั้น ไม่มีผลในเชิงพื้นฐาน แต่ในเชิงจิตวิทยาประเด็นนี้ตลาดรับรู้ไปนานแล้ว
"เป็นเรื่องของตัวบุคคลคงไม่กระทบต่อตลาดในเชิงพื้นฐาน"นายอดิศักดิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ว่าหากศาลให้ใบแดงนายยงยุทธ แล้วจะมีการเสนอยุบสภาฯนั้น มองว่า กว่าที่จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกคงต้องใช้เวลาพิจารณานานกว่าเดือน และจะต้องรอดูผลที่จะตามมาต่อจากเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร เรื่องของอนาคตต้องดูว่าระดับตรงนี้จะตีความไปเป็นเรื่องของระดับพรรคหรือเปล่า หากตีความไปถึงขั้นนั้นแล้วค่อยมาพิจารณาอีกทีหนึ่ง แต่ ณ ตอนนี้คิดว่าจะถูกจำกัดอยู่ที่เรื่องของนายยงยุทธ
บทวิเคราะห์ของ บล.ฟินันซ่า ระบุว่า กรณีที่ศาลฎีกาคดีเลือกตั้งรับคำร้องกรณีใบแดงนายยงยุทธ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะกกต.ทำถูกต้องตามขั้นตอนกฏหมาย แต่การตัดสินชี้ขาดว่าผิดหรือไม่ คาดต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ซึ่งหากผิดนายยงยุทธก็จะเข้าไปเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านเลขที่ 111 ที่ถูกแบนทางการเมืองไป 5 ปี
ส่วนขั้นต่อไปจึงจะเป็นการพิจารณาว่าพรรคพลังประชาชนมีเอี่ยวด้วยหรือไม่ หากผิด โทษสถานหนักคือ ยุบพรรคและกรรมการบริหารพรรคทั้ง 37 ท่านถูกแบนยกแผง แต่ทั้งนี้ผู้ชี้ขาดสุดท้ายคือศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสรุปเบ็ดเสร็จแล้วขั้นตอนทั้งหมดจากนี้คาดกินเวลาอีก 2-3 เดือน
เราไม่คาดว่าตลาดฯช่วงบ่ายจะตกใจกับเรื่องดังกล่าวมากนัก เพราะเป็นไปตามคาด เพราะขนาดเจ้าตัวยังบอกว่ายังไงศาลฯก็รับฟ้อง แต่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงพยานหลักฐานที่มีอยู่ ส่วนตลาดหุ้นไทยนั้นดูอาการครึ่งเช้าเหมือนพยายามเลี้ยงไม่ให้หลุด 800 จุดมากนัก เพราะ SET ลง แต่วอลุ่มแผ่วเหลือแค่ 6.6 พันล้านบาท เป็นไปตามกระแสโลกที่ทิ้งหุ้น Commodities มาเข้า Domestic Plays เช่น ขาย PTT มาซื้อ SCC และ/หรือ ขาย IRPC มาซื้อ ITD เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกปัญหามีทางออก และ 800 จุด คือแนวรับแรกที่มีหุ้นควรๆไว้สัก 20-30% เน้น Domestic Plays

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ