พรินซิเพิล มองโอกาสตลาดหุ้นตกต่ำเข้าซื้อถัวถือลงทุนยาวรองรับเกษียณ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 20, 2022 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศุภกร ตุลยธัญ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.พรินซิเพิล เปิดเผยในงานเสวนา The Retirement Plan Symposium the 7th "สินทรัพย์ดิจิทัลกับการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ" ว่า การจัดพอร์ตการลงทุนตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้เป็นต้นมา บลจ.พรินซิเพิลได้สื่อสารกับลูกค้าให้ลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นลง เนื่องจาก Fundamental ที่ดูไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะเรื่องของนโยบายการเงินในสหรัฐ ขณะที่ปัจจุบันก็ยังคงยืนยันคำแนะนำเดิม เนื่องจากความเสี่ยงยังมีอยู่ค่อนข้างมาก

แต่หากเป็นพอร์ตเพื่อการเกษียณ ด้วยราคาหุ้นที่ตกลงมาค่อนข้างมากราว -20% ก็มองเป็นโอกาสในการเข้าไปซื้อถัวเฉลี่ยราคา ด้วยเป้าหมายระยะยาว (Long Term) ประมาณ 15 ปี เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่เป็นบวก

ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ปัจจุบันยังไม่แนะนำให้นำเข้ามาในพอร์ตเพื่อการเกษียณ เนื่องจากมีความผันผวนที่สูงมาก เห็นได้จากราคาบิทคอยน์ปัจจุบันที่ปรับตัวลงมา ซึ่งติดลบไปกว่า 70%

นายศุภกร กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. และจะปรับดอกเบี้ยถึงสิ้นปีนี้ไปที่ 3.5% ก่อนจะเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 4.25% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 66 หลังจากนั้นเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.75% ในครึ่งหลังของปี 66 เพื่อต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้กลับมาใหม่

ขณะที่จากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ได้ส่งผลให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงกลางของสหรัฐมีกำลังซื้อลดลง และคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะมีแนวโน้มเติบโตลดลงด้วย เห็นได้จากการหลายบริษัทเริ่มชะลอการจ้างงาน ส่งผลให้อาจเห็นการปรับประมาณการกำไรบริษัทเอกชนลง และตลาดอาจเกิดความผันผวนได้ในระยะถัดไป

ส่วนในยุโรป คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค. เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง โดยมองว่ายุโรปจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในครึ่งปีหลังนี้

ด้านมุมมองต่อตลาดหุ้นจีนถือว่าดูดีกว่าตลาดสหรัฐและยุโรป เนื่องจากสภาวะการเงินที่ดูดีกว่า จากการเคร่งครัดมาก่อนหน้า และวัฎจักรเศรษฐกิจของจีนมีความแตกต่างกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่นๆ โดยระยะถัดไป จีนจะเข้าสู่ช่วงของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการมุ่งเน้นที่นโยบายเงินการคลัง

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าจีนจะยังคงใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (ZERO COVID-19) หนักเท่าช่วงก่อนหน้าหรือไม่ ถ้าไม่ได้หนักเท่า ก็มองเป็นผลบวกต่อตลาดจีนในอนาคต ขณะที่ภาพ Technical ของตลาด มองว่าตลาดหุ้นจีนได้ผ่านจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในช่วงของการปรับตัวเป็นขาขึ้น รวมถึง Valuation ก็ค่อนข้างถูก


แท็ก ตลาดหุ้น  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ