สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 39,827 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขาย สูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 2,586 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 962 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 359 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.39% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
Yield Curve ปรับตัวลดลงจากวันก่อนหน้าประมาณ 1-3 bps. สำหรับกระแสเงินลงทุน ของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET OUTFLOW 359 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET SELL 359 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) ด้านปัจจัยในประเทศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/65 จะเติบโตได้มากกว่า 3% โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือมูลค่าการส่งออกของไทยในไตรมาส 2 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 14.4% (YoY) ด้านปัจจัยต่างประเทศ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 0% สูงกว่าที่ ECB ส่งสัญญาณในเดือนมิ.ย.ว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพียง 0.25% เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 251,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย ด้านตลาดหลักทรัพย์- แห่งประเทศไทย (SET) มี NET BUY ของนักลงทุนต่างชาติ 139 ล้านบาท สำหรับ Holding ของ นักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นสัปดาห์นี้ปรับลดลง 4,954 ล้านบาท จาก 1,029,248 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้า เป็น 1,024,294 ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า