บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี(MFEC)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2551 มีมติให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมมูลค่า 600,000 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย เนื่องจากเข้าเงื่อนไขการปรับสิทธิ การเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีผลทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 251,250,000 บาท เป็น 251,850,000 บาท คณะกรรมการบริษัท กำหนดให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 483,400 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ,จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 116,600 หุ้นเพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ภายใต้โครงการเสนอขายหลักทรัพย์(โครงการESOP ครั้งที่ 1) สืบเนื่องมาจากคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมีติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของปี 2550 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาทโดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 และกำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 8 พฤษภาคม 2551 จากมติดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลในอัตราร้อยละ 85 ซึ่งเกินกว่าร้อยละ 80 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ จึงทำให้มีผลกระทบต่อราคาและอัตราการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรตามโครงการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และโครงการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิโครงการ ESOP ครั้งที่ 1) โดยจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่มีสิทธิรับเงินปันผล คณะกรรมการบริษัทจึงอนุมัติให้ปรับราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิใหม่ โดยใช้เกณฑ์การประเมินราคาตลาดเฉลี่ยเพื่อพิจารณาประมาณจำนวนหุ้นสามัญส่วนเพิ่ม ผู้ถือหุ้นเดิม ESOP ก่อนการปรับสิทธิ หลังการปรับสิทธิ ก่อนการปรับสิทธิ หลังการปรับสิทธิราคาการใช้สิทธิ 3 บาท ประมาณ 2.965 บาท 2 บาท ประมาณ 1.976 บาทอัตราการใช้สิทธิ 1:1 ประมาณ 1 : 1.012 1:1 ประมาณ 1 : 1.012 ภายหลังการใช้สิทธิแปลงสภาพครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คงเหลือจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่มาใช้สิทธิอีกจำนวน 47,037,650 หน่วย แบ่งออกเป็นผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 37,900,150 หน่วย และ ESOP จำนวน 9,137,500 หน่วย ดังนั้นโดยสรุปประมาณจำนวนหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิที่ต้องจัดสรรเพิ่มเติมอีกภายหลังการปรับสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ ESOP รวม 600,000 หุ้น ทั้งนี้บริษัทจะคำนวณราคาและอัตราการใช้สิทธิที่แท้จริงภายหลังการปรับสิทธิ และแจ้งต่อผู้ถือหุ้นให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 2 พฤษภาคม 2551 (ซึ่งเป็นวันแรกของการ ขึ้นเครื่องหมาย XD)