นายระฟ้า ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดกลุ่ม บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) เปิดเผยว่า แนวโน้มของผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในช่วงไตรมาส 3/65 คาดว่าจะเห็นการเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการที่บริษัทได้มีการนำเสนอคอนเทนท์ใหม่ออกมาออนแอร์ผ่านช่อง ONE31 ออกมา และได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก ทำให้เรทติ้งของช่อง ONE31 ในช่วงไพร์มไทม์ ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 จากคอนเทนท์ละครใหม่ คือ ใต้หล้า ในช่วง 19.00-20.00 น. ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ชมที่ดีอย่างท่วมท้น และคอนเทนท์อื่นๆในช่อง ONE31 ที่ออนแอร์ในช่วงทีผ่านมา ทั้งรายการวาไรตี้ และรายการถ่ายทอดสดกีฬา ส่งผลให้เรทติ้งของช่อง ONE31 รวมปรับเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 3 ในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันในส่วนของช่องทางออนไลน์ยังคงได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ทั้งในส่วนของช่องทาง Youtube ที่มีจำนวน Subscribe กว่า 73 ล้านราย และ Facebook ที่มีจำนวนผู้ติดตามกว่า 68 ล้านราย รวมถึงช่องทางแอปพลิเคชั่นของบริษัท ONED ที่มีการเติบโตของจำนวนสมาชิกขึ้นมาสูงมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาหลังจากเปิดให้บริการ มีฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นมาแตะ 6.7 ล้านคน จากในช่วงแรกที่เปิดให้บริการที่ 1 ล้านคน รวมถึงยังมีรายได้ที่เข้ามาจากการรับจ้างผลิตคอนเทนท์ให้กับ NETFLIX เข้ามาเสริม
นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจบริหารจัดการศิลปินยังคงมีรายได้ที่กลับมาเพิ่มขึ้น จากงานอีเว้นท์ของศิลปินและนักแสดงในสังกัดของบริษัทกลับมาเพิ่มขึ้น รวมถึงงานแสดงต่างๆที่กลับมา จากการจัดกิจกรรมคอนเสิร์ตและแฟนมีตติ้งของศิลปินในสังกดั ทำให้มีรายได้ในส่วนนี้กลับมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ช่วยหนุนผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวกลับมาได้ดี อย่างไรก็ตามในส่วนของเม็ดเงินโฆษณาในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเห็นทิศทางกลับมาเพิ่มขึ้นจากปีก่อน หลังจากครึ่งปีแรกเม็ดเงินโฆษณาของทั้งอุตสาหกรรมมีการใช้ลดลงราว 1% จากช่วงครึ่งปีแรกของปีก่อน ซึ่งมีการใช้เม็เงินโฆษณาไป 3.17 หมื่นล้านบาท จากช่วงครึ่งปีแรกของปี 64 ที่ใช้ 3.21 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกมองว่าผู้ประกอบการต่างๆยังคงรอติดตามสถานการณ์จากปัจจัยความไม่แน่นอนที่เข้ามากระทบต่อการบริโภคของคนในประเทศ ทำให้ยังไม่เร่งการใช้เม็ดเงินเพื่อมาลงโฆษณากระตุ้นตลาด
แต่แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเริ่มเห็นการกลับมาใช้เม็ดเงินกระตุ้นการบริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/65 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของปีที่บริษัทมองว่าจะสามารถปิดการขายโฆษณากับลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น และในช่วงไตรมาส 4/65 ที่จะมีการขายช่วงเวลาโฆษณากับลูกค้าเพื่อออกอากาศในช่วงไตรมาส 1/66 อาจจะมีการพิจารณาปรับขึ้นราคาค่าโฆษณาเพิ่ม หลังจากที่บริษัทเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน และกลุ่มสินค้า Consumer Product ได้มียอดขายที่ปรับเพิ่มขึ้น
สำหรับความร่วมมือกับพันธมิตรบมจ.วีจีไอ (VGI) ในการเจาะกลุ่มผู้ชมทุกช่องทางทั้ง On Air และ On Line รวมถึงเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มสื่อโฆษณาของวีจีไอกว่า 3,500 จอทั่วกรุงเทพและปริมณฑลแบ่งเป็นจอบนสถานีและขบวนรถไฟฟ้า BTS รวมกว่า 2,000 จอ ตึกสำนักงานชั้นนำ 195 อาคาร กว่า 1,500 จอ ซึ่งผ่านสายตาผู้ชมรวมกันกว่า 3.3 ล้านคน/วัน ทำให้สามารถขยายฐานผู้ชมข่าววันนิวส์ได้ และสามารถทำให้ผู้ชมเข้าถึงช่อง ONE31 ได้มากขึ้น
ส่วนความร่วมมือในการพัฒนาคอนเทนท์ซีรีย์เวอร์ชั่นไทยที่จะก้าวสู่ระดับโลก ซึ่งได้ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ SBS เกาหลีใต้ จะเป็นการต่อยอดการให้สร้างคอนเทนท์อีกระดับของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลงานที่พัฒนาร่วมกันออกมาภายในปี 66 เป็นต้นไป อีกทั้งบริษัทยังมีการเจรจาในการรับจ้างพัฒนาคอนเทนท์ไปนำเสนอผ่านช่องทาง OTT แพลตฟอร์มของพัฒนาต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีอีก 1 พันธมิตร OTT จากสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการรอเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/65 หรือไตรมาส 1/66 หลังจากบริษัทได้มีความร่วมมือเพิ่มจาก Amazon Prime ที่เปิดให้บริการในประเทศไทยแล้ว