อดีตเลขา ก.ล.ต.เตือนตลาดทุนไทยก้าวให้ทันผลกระทบโลกแบ่งข้าง-ศก.ดิจิทัลสร้างจุดเปลี่ยน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 7, 2022 14:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตเลขธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยในงานเสวนา "ก้าวต่อไปของตลาดทุนไทยในทศวรรษหน้า ก้าวอย่างเท่าทันและทัดเทียม เพื่อความมั่นคงและยั่งยืน" ว่า ตลาดทุนไทยจะต้องก้าวให้ทันกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

ทั้งนี้ จากปัญหาโลกแบ่งข้างในปัจจุบัน ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยเฉพาะในการติดต่อค้าขาย รวมถึงในตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อทำธุรกรรมระหว่างกัน เห็นได้จากความพยายามที่จะลดบทบาทเงินดอลลาร์สหรัฐที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก โดยบางประเทศลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ ด้วยการหาสิ่งอื่นขึ้นมาทดแทน โดยเฉพาะการค้าขายระหว่างกัน รวมถึงหาทางออกสำหรับการลงทุนด้วยสกุลอื่นที่จะทำให้ไม่สามารถโดนยึดไปได้ง่ายๆ

ขณะนี้ก็เริ่มเห็นการใช้สกุลเงินท้องถิ่นระหว่างกัน อย่างเงินรูเบิลแลกเงินรูปี เป็นต้น ซึ่งเข้ามาแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว แต่ปัญหา คือ จะทำอย่างไรให้สกุลเงินท้องถิ่นดังกล่าวเกิดดอกผลงอกงามขึ้นมาในระหว่างการถือครอง และหากมีความจำเป็นต้องมีการกู้ยืมเงินในอนาคต จะทำได้อย่างไร ทั้งนี้ด้วยปัญหาดังกล่าวถือเป็นโจทย์ของ ก.ล.ต.ที่จะต้องเตรียมหาวิธีรองรับและอำนวยความสะดวกกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

นายธีระชัย กล่าวว่า การค้าโลกที่แบ่งออกเป็น 2 ข้าง จะทำให้เกิดการค้าที่เรียกว่า Regional Trade ที่เข้มข้นขึ้น และการค้าขายกับประเทศจีนก็จะมีมากขึ้นด้วย ดังนั้น การใช้เงินหยวนดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งไทยต้องกลับมาถามตัวเองว่าจะอำนวยความสะดวกได้อย่างไร หรือจัดทำพื้นที่การใช้หยวนดิจิทัลเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนให้สามารถนำมาใช้ได้ทันทีหรือไม่

หรือ SME ไทยที่ต้องการเข้าไปในแพลตฟอร์มการซื้อขายของอาลีบาบา (Alibaba) หรือในเพจต่างๆ ของจีน เพื่อขายสินค้าในประเทศจีน จะทำอย่างไรเพื่อให้การทำธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่น ทั้งการนำเสนอข้อมูลเป็นภาษาจีน การรับชำระเงินเป็นหยวนดิจิทัล ซึ่งจะเป็นโจทย์ที่ 2 ของตลาดทุนไทยว่าจะเข้าไปสนับสนุน รองรับตรงนี้ได้อย่างไร

ขณะที่เศรษฐกิจดิจิทัล เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต ตราบใดที่การทำธุรกรรมนั้นมีต้นทุนที่ถูกกว่า เร็วกว่า อีกทั้งยังมีการพัฒนา Web 3.0 ซึ่งจะมีอิสระเสรีมากขึ้น อีกทั้งการใช้ดิจิทัลจะกลายเป็นเครื่องมือ Open Government เพื่อลดความเสี่ยงด้านคอร์รัปชั่น และทั่วโลกก็ให้ความสำคัญมากขึ้น เห็นได้จากสหรัฐได้นำเข้ามาอยู่ในกรอบ Asia Pacific Economic Framework ชี้ให้เห็นว่าในเวลานี้สหรัฐตั้งโจทย์ในเรื่องของเศรษฐกิจดิจิทัลแล้ว โดยมีความต้องการออกเกณฑ์กำกับดูแล เพื่อยังทำให้สหรัฐมีบทบาทสำคัญในเวทีโลกอยู่ รวมไปถึงการหาวิธีบล็อกดิจิทัลหยวนด้วย ซึ่งในแง่ของการบริหารจัดการของฝ่ายกำกับดูแลตลาดทุนไทย จะต้องคิดว่าจะวางแผนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ