ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 300,581 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 28, 2022 11:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (21 - 25 พฤศจิกายน 2565) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 300,581 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 60,116 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 3% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 50% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 148,963 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออก โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออก โดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 74,512 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการ ซื้อขายเท่ากับ 11,446 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25% และ 4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB336A (อายุ 10.6 ปี) LB22DA (อายุ .1 ปี) และ LB256A (อายุ 2.6 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 19,842 ล้านบาท 7,206 ล้านบาท และ 6,326 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รุ่น PTTC318A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 942 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น MBTH231A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 491 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) รุ่น ASK25NA (Non-Rated) มูลค่าการซื้อขาย 404 ล้านบาท

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบประมาณ 2-13 bps. ด้านปัจจัยต่างประเทศ รายงานการประชุมคณะกรรมการ กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) เมื่อวันที่ 1-2 พ.ย. ระบุว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อยังไม่ได้ส่งสัญญาณชะลอตัวลง ขณะที่ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตือนว่า มีโอกาสสูงขึ้นเกือบ 50% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 ขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่า การขยายตัวของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลกในปี 2566 จะขยายตัวลดลงสู่ระดับ 2.2% จากระดับ 3.1% ในปี 2565 เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลก ใช้นโยบายด้านการเงินเพื่อแก้ไขภาวะเงินเฟ้อสูง ด้านปัจจัยในประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/65 ขยายตัว 4.5% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 4.3% จากการผ่อนคลายมาตรการ ในการควบคุมโรคโควิด-19

สัปดาห์ที่ผ่านมา (21 - 25 พฤศจิกายน 2565) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 11,666 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 9,375 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 600 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 2,891 ล้านบาท

หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้

*ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565

ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย                                    สัปดาห์นี้        สัปดาห์ก่อนหน้า     เปลี่ยนแปลง              สะสมตั้งแต่ต้นปี
                                                      (21 - 25 พ.ย. 65)  (14 - 18 พ.ย. 65)           (%)    (1 ม.ค. - 25 พ.ย. 65)
มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท)              300,580.85         309,718.46        -2.95%            12,799,171.78
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท)                                 60,116.17          61,943.69        -2.95%                58,711.80
ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index)                      101.08             100.36         0.72%
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index)                    105.97             105.75         0.21%

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --%
ช่วงอายุของตราสารหนี้                    1 เดือน     6 เดือน     1 ปี     3 ปี     5 ปี     10 ปี     15 ปี     30 ปี
สัปดาห์นี้ (25 พ.ย. 65)                    0.84       1.25    1.44     1.9    2.27     2.66      3.4     4.09
สัปดาห์ก่อนหน้า (18 พ.ย. 65)               0.82       1.14    1.38    1.89    2.36     2.76     3.53     4.13
เปลี่ยนแปลง (basis point)                   2         11       6       1      -9      -10      -13       -4

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ