ในช่วงปีที่ผ่านมากลุ่มสื่อสารมีความเคลื่อนไหวคึกคักอย่างต่อเนื่อง จาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ทำดีลควบรวมเบ่งร่างใหญ่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในตลาดมือถือของไทย แน่นอนว่า บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เจ้าตลาดก็อยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ต่อมาจึงได้เห็นดีลเข้าซื้อธุรกิจทริปเปิ้ลที บรอดแบนด์ (TTTBB) จาก บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เพื่อหวังขยายฐานลูกค้าบรอดแบนด์แข่งกับรายใหญ่อย่างทรู
เจาะลึก ADVANC ธุรกิจต่อไปข้างหน้าจะเป็นยังไง ขณะที่ดีลควบรวมกิจการ TRUE-DTAC ใกล้จะจบแล้วหลังลากมากว่า 2 ปี ADVANC กำลังสร้างบทใหม่ในปี 66 ที่เป็นมากกว่ามือถือเอไอเอส นายพิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ในปี 66 ADVANC ต้องเดินหน้าดำเนินการสิ่งที่ค้างปีก่อน คือการเข้าซื้อ TTTBB ที่คาดว่าขั้นตอนจะเสร็จในเดือน มี.ค.66 โดยคาดว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะอนุมัติราวปลาย ก.พ.หรือต้น มี.ค.66 แต่อาจต้องเผื่อระยะเวลาอีก 1 เดือนหากเกิดกรณีฟ้องร้องหรือขอการคุ้มครองชั่วคราวจากผู้คัดค้าน ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 2/66
เมื่อกระบวนการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว มองว่าจะกดดันให้กำไรของ ADVANC ลดลง เนื่องจาก ADVANC ต้องจ่ายค่าเช่าแพง 5% และตัวธุรกิจ TTTBB มีผลขาดทุน รวมทั้งยังมีต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มจากการกู้เงิน ซึ่งจะต้องรอวัดฝีมือผู้บริหาร ADVANC จะเก่งแค่ไหนที่จะหยุดการสิ้นสุดการขาดทุนของ TTTBB
นอกจากนี้ธุรกิจ Data Center ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Singtel และ บมจ.กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์(GULF)คาดว่าอยู่ระหว่างหาที่ตั้งน่าจะสรุปภายในครึ่งแรกปี 66 และ ล่าสุดแตกไลน์ไปสู่ความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในการจัดตั้ง Virtual Bank ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่มีเป้าหมายดึงฐานลูกค้ามือถือมาให้บริการทางการเงิน ทั้ง 3 เรื่องก็ต้องติดตามกันต่อไป เพราะจะช่วยการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
สำหรับธุรกิจปัจจุบัน นายพิสุทธิ์ ระบุว่า แม้ว่า TRUE-DTAC ควบรวมกิจการกันแล้ว ทำให้มีผู้เล่นในตลาดน้อยลง แต่เชื่อว่ายังมีการแข่งขันสูงอยู่
บล.กสิกรไทย คาดว่าในปี 66 ADVANC จะมีกำไรต่ำลงราว 5% แต่หากต่ำมากกว่า 5% ขณะที่ P/E 20 เท่าในปัจจุบันก็มองว่าไม่ถูก ขณะที่มองว่า DTAC น่าสนใจกว่าหลังจากรวมกิจการกับ TRUE จะทำให้มีฐานลูกค้าสูสีกัน ฐานรายได้ใกล้เคียงกัน มีเพียงกำไรห่างกัน โดยบริษัทใหม่ที่ควบรวมแล้วขาดทุน 1 พันล้านบาท กับ ADVANC มีกำไร 3 หมื่นล้านบาท จึงเห็นว่าในแง่โอกาสการเติบโต บริษัทใหม่ภายหลังควบรวม TRUE-DTAC มีสิทธิพลิกเป็นกำไรได้
ทั้งนี้ แนะนำ "ซื้อ" ทั้ง ADVANC TRUE และ DTAC แต่ขอบ DTAC มากที่สุด เพราะคาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 1-2 บาท ก่อนเข้าควบรวม และมีอัตราแลกหุ้นในบริษัทใหม่ดีกว่า TRUE 7% ให้เป้าหมาย 58.43 บาท ส่วน TRUE ให้เป้า 6.28 บาท และ ADVANC ที่ 233.85 บาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)ฃ
โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 252.00
เมย์แบงก์ ซื้อ 240.00
เอเซียพลัส ซื้อ 239.00
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ซื้อ 235.00
ทิสโก้ ซื้อ 235.00
กสิกรไทย Outperform 233.85
อินโนเวสท์ Outperform 225.00
นักวิเคราะห์จาก บล.โนมูระ พัฒนสิน ให้ความเห็น ADVANC ว่า ในไตรมาส 4/65 น่าจะเห็นการฟื้นตัวทั้งรายได้และกำไร รับภาพการท่องเที่ยวดีขึ้น ทำให้มีการใช้งานมือถือมากขึ้น และได้รับประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า ทำให้ต้นทุนการนำเข้าอุปกรณ์ถูกลง ช่วยทำให้กำไรดีขึ้น
ส่วนภาพระยะยาว จะเห็นภาพอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเข้าสู่การปรับโครงสร้าง โดยการควบรวม TRUE-DTAC ทำให้มีการแข่งขันน้อยลง ADVANC รวมกับ TTTBB มีโอกาสเติบโตทั้งมือถือและธุรกิจบรอดแบนด์ และล่าสุดก็จะให้บริการ Virtual Bank ก็เป็นการสร้างการเติบโตในระยะยาว ทิสทางการลงทุนสดใส และยังมี อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (DID Yield) 3%
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ADVANC เติบโตได้ทั้ง Organic growth จากธุรกิจมือถือ ซึ่งจะเติบโตตามฐานลูกค้า 5G ที่ใหญ่ขึ้น ที่จะช่วยดึงรายได้ต่อเลขหมาย (ARPU) ดีขึ้น ขณะที่รายได้จากธุรกิจบรอดแบนด์ที่ได้เข้าซื้อ TTTBB เป็นการเติบโตแบบ Inorganic จะช่วยทำให้รายได้บรอดแบนด์โตเท่าตัว อีกทั้งยังการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในครึ่งหลังปี 66 แนะนำ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 252 บาท
ราคา ADVANC เคลื่อนไหวอยู่ที่ 202 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+0.50%) เมื่อ 15.25 น.สวนตลาด SET -0.40%