HILITE: JMT พุ่งนำกลุ่ม JMART ตอบรับกำไร Q4/65 นิวไฮ เก็งปีนี้สดใสหลังหมดปัจจัยกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 14, 2023 11:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

JMT ปรับตัวขึ้น 7.07% หรือเพิ่มขึ้น 3.50 บาท มาที่ 53.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 814.44 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.35 น.จากราคาเปิด 50.75 บาท ราคาสูงสุด 53.25 บาท ราคาต่ำสุด 50.75 บาท

JMART บวก 3.76% หรือเพิ่มขึ้น 1.25 บาท มาที่ 34.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 301.96 ล้านบาท

J บวก 1.54% หรือเพิ่มขึ้น 0.06 บาท มาที่ 3.96 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.78 ล้านบาท

SINGER บวก 2.83% หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท มาที่ 27.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 80.86 ล้านบาท

ราคาหุ้น บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) พุ่งแรงกระชากกลุ่ม JMART ดีดขึ้นตาม หลังจากแจ้งงบปี 65 กำไร 1.75 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่กำไร 1.4 พันล้านบาท โดย บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า กำไรไตรมาส 4/65 ทำ New High ตามคาด แต่ยอดจัดเก็บอาจอ่อนตัวระยะสั้น เป็นผลจากการลงทุนซื้อหนี้ในระหว่างปีค่อนข้างน้อย บวกกับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอาจมีผลให้ลูกหนี้อาจต้องนำเงินไปลงทุนหรือไปบริโภคก่อน

ปี 66 คาดว่าปัจจัยกดดันลดลง กำไรจะเติบโตชัดเจนมากขึ้น หลังจากปี 65 เติบโตน้อยลงเหลือ 25%YoY แม้จะยังเป็นอัตราที่สูง และยังเป็นกำไร New High แต่มีปัจจัยกดดัน คือด้านการจัดเก็บได้รับผลกระทบจากโรคระบาดและปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และด้านการซื้อหนี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงิน แต่ปีนี้ปัจจัยกดดันต่าง ๆ จะลดน้อยลงทำให้การจัดเก็บกระแสเงินสดดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ และการซื้อหนี้จะกลับมาเพิ่มขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการขายหนี้จากสถาบันการเงินที่มากขึ้นหลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้

นอกจากนี้ยังคาดจะเห็นส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC ที่มากขึ้นจากการรับโอนหนี้จาก KBANK เข้ามาเพิ่มเติม โดยเราคาดกำไรปี 66 ที่ 2,501 ล้านบาท เติบโต 43%YoY พร้อมทั้งรอติดตามรายละเอียดการ Spin-off ที่บริษัทมีแผนนำ JAM ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้า IPO เบื้องต้นคาดจะมีการปรับโครงสร้าง โดย JMT บริหารพอร์ตหลักคือหนี้ไม่มีหลักประกัน ขณะที่ JAM จะบริหารหนี้ที่มีหลักประกัน ซึ่ง JAM จะนำเงินจากการระดมทุนไปประมูลซื้อหนี้เพิ่ม แต่คงต้องรอความชัดเจนด้านโครงสร้างและแผนธุรกิจภายหลังการ Spin-off จากทางบริษัทอีกครั้งหนึ่ง

คงราคาเป้าหมายหุ้น JMT ปี 66 ที่ 80 บาท อิง PBV 4.7 เท่า ราคาหุ้นปัจจุบันที่อ่อนตัวทำให้ Downside ต่ำ ขณะที่แนวโน้มกำไรยังเติบโตดี ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"

ขณะที่ บล.ดาโอ มีความเห็นว่า JMT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 490 ล้านบาท (+3% YoY, +8% QoQ) เป็นไปตามคาด โดยขยายตัวจาก 1.รายได้ธุรกิจรับจ้างติดตามหนี้ที่กลับมาดีขึ้นตามมูลหนี้รับจ้างที่สูงขึ้น และรับจ้างติดตามหนี้ JKAM, 2.รับรู้ส่วนแบ่งกำไร JKAM เพิ่มขึ้นตามหนี้เสียที่ซื้อเพิ่มจาก KBANK เป็น 7 หมื่นล้านบาท ขณะที่ 3. cash collection ทรงตัว YoY และ QoQ จากการจ่ายชำระหนี้ลดลงช่วงเงินเฟ้อ ทำให้ 4. ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายและดำเนินคดีสูงขึ้นเพื่อให้ cash collection ทรงตัว

คงประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ที่ 2.2 พันล้านบาท (+26% YoY) จากการเข้าซื้อหนี้เสียทรงตัว 5 พันล้านบาท และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก JKAM เพิ่มเป็น 434 ล้านบาท (ปี 65 ที่ 98 ล้านบาท) ขณะที่ค่าใช้จ่ายกฎหมายจะยังทรงตัวสูง และรับรู้ค่าใช้จ่าย IPO ของ JAM ในปี 66

ราคาหุ้น underperform SET -28% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จากความกังวลต่อ cash collection อาจต่ำกว่าคาดช่วงเงินเฟ้อสูง แต่ยังแนะ "ซื้อ" จากผลการดำเนินงานในอนาคตที่จะเติบโตสูง หนุนโดยการทยอยกลับมาขายหนี้เสียของสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้น, มีโอกาสขยายธุรกิจเพิ่มจากเงินเพิ่มทุน K INVESTURE จำนวน 3.5 พันล้านบาท รวมทั้งยังสามารถระดมทุนจากหุ้นกู้ได้เพิ่ม จาก D/E ที่ต่ำเพียง 0.3x สำหรับ cash collection คาดว่ายังขยายตัวต่อเนื่อง จากการเข้าซื้อหนี้เสียเพิ่มขึ้น และการเพิ่มจำนวนพนักงานเพื่อรองรับการติดตามหนี้เสียที่สูงขึ้น ทั้งของบริษัท และ JKAM

ขณะที่หุ้นแม่อย่าง บมจ.เจ มาร์ท (JMART) แจ้งกำไรปี 65 เท่ากับ 1.8 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่กำไร 2.47 พันล้านบาท

บมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) กำไรปี 65 เท่ากับ 935.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไร 700.59 ล้านบาท

บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) กำไรปี 65 เท่ากับ 202.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไร 161.44 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ