
นางมัลลิกา แก่กล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี (DEXON) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วประเทศที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ครบทั้งจำนวน 123.18 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายที่หุ้นละ 4.50 บาท สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และโอกาสในการเติบโตในอนาคต
ขณะที่บริษัท มีความพร้อมที่จะนำหุ้น DEXON เข้าซื้อขายวันแรก (First Day Trade) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 31 มี.ค.66 นี้

การระดมทุนในครั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ (ทวีปยุโรป) รวมถึงสหรัฐอเมริกา โดยเน้นให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง (Smart Pigging Technology) ที่มีคู่แข่งในตลาดน้อยราย โดยเฉพาะการตรวจสอบรอยแตกขนาดเล็กในระบบท่อส่งที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่มีเทคโนโลยีสูงที่บริษัทพัฒนาขึ้น (Hawk Pipeline Crack Detection and Measurement System)
พร้อมทั้งลงทุนในงานวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม เช่น การเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ, การตรวจสอบระบบท่อส่งเพื่อรองรับการแปลงไปสู่การใช้งานของก๊าซไฮโดรเจน (Hydrogen Energy Conversion) ที่จะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในระบบท่อส่งจากเดิมเป็นน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เป็นการขนส่งก๊าซไฮโดรเจน การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage : CCS) เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับบริษัท
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ DEXON เปิดเผยว่า DEXON เสนอขายหุ้น IPO ครบถ้วนสะท้อนราคาที่เสนอขาย 4.50 บาทสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจและโอกาสของการเติบโตในอนาคต
DEXON กระจายหุ้นให้กับสถาบันและนักลงทุนทั่วไป สำหรับการที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ของ DEXON เป็นจำนวนมากนั้น เป็นผลมาจากการตั้งราคาเสนอขายเป็นราคาที่เหมาะสมรวมถึงนักลงทุนรับรู้ถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต เนื่องจากมีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนสถาบันในประเทศ และโรดโชว์ให้กับนักลงทุนรายย่อย ประชาชนทั่วไปในประเทศอีกจำนวน 5 จังหวัด
ขณะที่ผลประกอบการของ DEXON ในปี 63-65 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย และบริการ 438.97 ล้านบาท 433.46 ล้านบาท และ 608.51 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 11.04 ล้านบาท 18.15 ล้านบาท 105.15 ล้านบาท ตามลำดับ
รายได้ในปี 65 เพิ่มขึ้น 175.04 ล้านบาท เติบโต 40.38% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 64 และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 87 ล้านบาท เติบโต 479.33% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 64 เนื่องจากปริมาณงานลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก หลังจากสถานการณ์ COVID-19 ผ่อนคลายและบริษัทสามารถเดินทางไปให้บริการในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยเชื่อว่าจากนี้เศรษฐกิจจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากเผชิญวิกฤต COVID-19 มาตั้งแต่ปี 63