วิกฤติแบงก์ตปท.กดดัชนี FETCO ลงมาในเกณฑ์ทรงตัว หวังเลือกตั้ง-เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 10, 2023 11:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

วิกฤติแบงก์ตปท.กดดัชนี FETCO ลงมาในเกณฑ์ทรงตัว หวังเลือกตั้ง-เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยหนุน

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจความเห็นนักลงทุนในเดือน มี.ค.66 พบว่าค่าดัชนีในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 95.65 ปรับตัวลดลง 21.0% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" เนื่องจากในเดือนที่ผ่านมา SET index มีความผันผวนจากวิกฤติธนาคารจากการปิดตัวธนาคารสหรัฐและยุโรป

ขณะที่นักลงทุนมองว่าการเลือกตั้งในประเทศจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อการไหลออกของเงินทุน รองลงมาคือแนวทางนโยบายการเงินของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และสถานการณ์ส่งออกที่ชะลอตัว

ผลสำรวจสรุป ดังนี้

  • ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (มิถุนายน 2566) อยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" (ช่วงค่าดัชนี 80-119) ลดลง 21% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 95.65
  • ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคล และกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" กลุ่มนักลงทุนสถาบันอยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรง" ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ "ซบเซา"

หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM)

หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร (BANK)

ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การเลือกตั้งในประเทศ

ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ความกังวลต่อการไหลออกของเงินทุน

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO เปิดเผยว่า ผลสำรวจ ณ เดือนมีนาคม 2566 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า มีเพียงความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับเพิ่มขึ้น 21.9% อยู่ที่ระดับ 131.25 ในขณะที่กลุ่มอื่นปรับลดลง โดยนักลงทุนบุคคลปรับลด 7.9% อยู่ที่ระดับ 112.07 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 20.0% อยู่ที่ระดับ 100.00 และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับลด 38.6% อยู่ที่ระดับ 75.00

SET Index ในช่วงครึ่งแรกของเดือนมีนาคม 2566 มีความผันผวนโดยเฉพาะในช่วงกลางเดือนหลังเกิดวิกฤติธนาคาร จากข่าวการปิดตัวของธนาคารในสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Silicon Valley (SVB) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการระดมทุนของสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ และ Credit Suisse (CS) ซึ่งประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก จนทางการสวิตเซอร์แลนด์ด้องเจรจาให้ขายกิจการ CS ให้แก่ธนาคาร UBS ส่งผลให้กลุ่มธนาคารทั่วโลกปรับตัวลดลง รวมถึงความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของเดือน SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังแนวโน้มวิกฤติธนาคารเริ่มคลี่คลาย การที่เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายโดยปรับขึ้นเพียง 0.25% และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไทย 0.25% อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองไทยมีความชัดเจนหลังจาก กกต.ประกาศวันเลือกตั้งทั่วไปอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ SET Index ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 ปิดที่ 1,609.17 จุด ปรับตัวลดลง 0.8% จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในเดือนมีนาคม 2566 กว่า 31,494 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 56,059 ล้านบาท

ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลกระทบของวิกฤติธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปหากลุกลาม แนวโน้มทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยและนโยบายการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ ยุโรป และอังกฤษเพื่อจัดการปัญหาเงินเฟ้อ โดยเฉพาะความขัดแย้งในรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่คลี่คลาย ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การเมืองในประเทศก่อนการเลือกตั้ง และสถานการณ์การส่งออกที่หดตัวลงจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ