สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 58,153 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขาย สูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 10,985 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,675 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 4,441 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.27% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.04%
Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าประมาณ 1-6 bps. นักลงทุนคาดว่า กนง. มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมสัปดาห์หน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ วันนี้ NET OUTFLOW 5,641 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET SELL 4,441 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครอง โดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 1,200 ล้านบาท ด้านปัจจัยในประเทศ รายงานการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 2-3 พ.ค.ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ความจำเป็นในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นเริ่มลดลง โดยกรรมการหลายคนกล่าวว่าการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมที่ผ่านมาอาจเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้เครดิตพินิจ (Rating Watch) ของสหรัฐฯ เป็นเชิงลบ พร้อมระบุว่า อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ หากการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มี NET SELL ของนักลงทุนต่างชาติ 2,759 ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดติดตามประมาณการครั้งที่ 2 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 และรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ในคืนนี้