ก.ล.ต.เปิดยอดฟันแพ่ง 7 ปี 64 คดี 332 ราย ไม่ยอมรับโทษ 109 ราย เรียกค่าปรับส่งคลังกว่า 1.7 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 16, 2023 11:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ก.ล.ต.เปิดยอดฟันแพ่ง 7 ปี 64 คดี 332 ราย ไม่ยอมรับโทษ 109 ราย เรียกค่าปรับส่งคลังกว่า 1.7 พันลบ.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยแพร่บทความเรื่อง "มาตรการลงโทษทางแพ่ง" เพิ่มประสิทธิภาพบังคับใช้กฎหมายให้รวดเร็วมากขึ้น โดยระบุว่า หนึ่งในภารกิจหลักของ ก.ล.ต. คือการดำเนินงานในด้านการบังคับใช้ กฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้พัฒนากระบวนการการดำเนินงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย มาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เท่าทันความเปลี่ยน แปลงและความท้าทายของสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ (e-enforcement) อีกทั้งยึดมั่นในการดำเนินการ ทุกขั้นตอน ตามกฎหมาย (Due Process of Law) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการบังคับใช้กฎหมายของ ก.ล.ต. มีความรอบคอบ รัดกุม เชื่อถือได้ และ เป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

เมื่อมีเหตุสงสัยว่าอาจมีการกระทำความผิดตามกฎหมายที่ ก.ล.ต. กำกับดูแล โดย ก.ล.ต. มีขั้นตอนและระยะเวลาดำเนิน การในการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้เพียงพอต่อการพิจารณา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงแสดงพยานหลักฐานตาม สิทธิอันพึงมี มีกระบวนการพิจารณาที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ได้จากการดำเนินการ และการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน ตามอำนาจหน้าที่และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด มีกระบวนการขั้นตอนที่ชัดเจนและโปร่งใส และ มีการบันทึกความเห็นในทุกขั้นตอน รวมถึงรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาประกอบการพิจารณา

ทั้งนี้ การกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามและดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิด ก.ล.ต. มีช่องทางในการบังคับใช้ กฎหมาย 3 ช่องทาง ได้แก่ การดำเนินการทางปกครอง การดำเนินการทางอาญา และการดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง

"มาตรการลงโทษทางแพ่ง" เป็นกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่เริ่มนำมาใช้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2559 ตามพระราชบัญญัติ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 และต่อมาได้มีการนำมาใช้บังคับกับพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิ ทัล พ.ศ. 2561 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายให้รวดเร็วมากขึ้น ในความผิดเกี่ยวกับกระทำการอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับ การซื้อขายหลักทรัพย์/สินทรัพย์ดิจิทัล (การสร้างราคา การใช้ข้อมูลภายใน/การเปิดเผยข้อมูลภายใน การบอกกล่าวข้อความเท็จ/การแพร่ ข่าว) ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีซื้อขาย การไม่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นต้น

เมื่อ ก.ล.ต. พบการกระทำผิดและเห็นควรใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิด ก.ล.ต. จะต้องเสนอให้คณะ กรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) พิจารณาว่าสมควรใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิดหรือไม่ โดยมาตรการ ลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ห้ามเข้าซื้อขายหลักทรัพย์/สินทรัพย์ดิจิทัล ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์/ผู้เสนอขายโทเคนดิจทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดนับจากปลายปี 2559 จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 31 ตุลาคม 2566) มีการดำเนินการตามมาตรการลงโทษทางแพ่งแล้ว 64 คดี จำนวนผู้กระทำความผิดรวม 332 ราย

การดำเนินการตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง
(12 ธันวาคม 2559 ? 31 ตุลาคม 2566)                                 คดี           ราย
                                                                       ยินยอม      ไม่ยินยอม
ผู้กระทำความผิดทุกรายตกลงทำบันทึกการยินยอม*                            48      202          --
ผู้กระทำความผิดบางส่วนตกลงทำบันทึกการยินยอม* และบางส่วนไม่ยินยอมฯ          8       21          83
ผู้กระทำความผิดทุกรายไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด  8       --          26
                                                  รวม           64          332

หมายเหตุ : เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิด เป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่ง กระทรวงการคลังแล้ว

สำหรับเงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิด ที่ผู้กระทำผิดชำระแล้วนั้น ก.ล.ต. ได้ นำส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน รวมเป็นเงินมากกว่า 1,719.82 ล้านบาท

ส่วนผู้กระทำความผิดที่ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. ได้ขอให้พนักงานอัยการ ดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดต่อศาลแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ

ทั้งนี้ มีคดีที่ถึงที่สุดแล้ว 5 คดี จำนวนเงินที่ศาลพิพากษายุติรวม 59.18 ล้านบาท โดยใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1-2 ปี นับตั้งแต่วันฟ้องคดี ซึ่งใช้เวลาลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับการดำเนินคดีอาญา โดยที่ผ่านมาการดำเนินคดีอาญาใช้เวลามากกว่า 2 ปีนับจากปี ที่กล่าวโทษถึงปีที่คดีสิ้นสุด

นอกจากนี้ ในกรณีที่เป็นความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ก.ล.ต. ยังได้นำส่งการ ดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากเป็นความผิด มูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 อีกด้วย รวมทั้งหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก. ล.ต. มีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ