"ยูโร ครีเอชั่นส์" เข้าคิวรอขาย IPO หลัง ก.ล.ต.ให้ไฟเขียว ชูความเชี่ยวชาญเจาะตลาดลักชัวรี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 17, 2024 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ EURO แล้ว ปัจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)

ณ วันที่ 30 ก.ย.66 EURO มีทุนจดทะเบียน 152.50 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 305 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 125 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญ 250 ล้านหุ้น โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 78 ล้านหุ้น แบ่งเป็น หุ้นเพิ่มทุน 55 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย European Design Holdings Limited จำนวน 23 ล้านหุ้น

วัตถุประสงค์การระมทุนเพื่อนำไปใช้ (1) ลงทุนก่อสร้างโชว์รูมใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ โชว์รูมทองหล่อ ซอย 1, ทองหล่อ ซอย 5 และภูเก็ต (2) ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อการก่อสร้างโชว์รูมใหม่ 3 แห่ง และคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นสำหรับเงินทุนหมุนเวียน และ (3) เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและการขยายธุรกิจ

นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EURO เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นคัดสรรและนำเสนอเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งและอุปกรณ์ฟิตเนสระดับลักชัวรี่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งบริการแบบครบวงจรด้วยความเชี่ยวชาญภายใต้มาตรฐานระดับโลก เพื่อตอบสนองลูกค้าให้สามารถใช้ชีวิตในทุกพื้นที่และทุกช่วงเวลาได้ตามความต้องการ

บริษัทเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับสินค้าแบรนด์ชั้นนำระดับลักชัวรี่ที่หลากหลาย อาทิ Gessi, Molteni & C, Cassina, Giorgetti, Natuzzi Italia, Frette, Technogym ฯลฯ โดยเฉพาะแบรนด์จากอิตาลี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการออกแบบของอุตสาหกรรมตกแต่งบ้านในยุโรป

บริษัทยังมีกลุ่มลูกค้า B2B ผู้พัฒนาโครงการระดับลักซัวรี่ อาทิ มัลเบอร์รี โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า, อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท, โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ฯลฯ ตลอดจนกลุ่มลูกค้า B2C ที่เป็นลูกค้ารายย่อยในกลุ่มลักซัวรี่ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นที่รู้จักในธุรกิจ "Luxurious & High Quality Living"

จุดเด่นในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ 1) บริษัทฯ เป็นตัวแทนในการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแบรนด์ชั้นนำระดับลักซูรี่จากต่างประเทศ 2) ทำเลที่ตั้งของโชว์รูมที่มีศักยภาพเอื้อต่อการแข่งขัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและมีแผนขยายโชว์รูมใหม่รองรับฐานลูกค้ามากขึ้น 3) ทีมบุคลากรมากประสบการณ์ในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ระดับลักชัวรี่ในประเทศไทยมากว่า 25 ปี และความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพันธมิตรทางธุรกิจเจ้าของแบรนด์สินค้าต่างประเทศ 4) มีฐานลูกค้า Loyal Customer ที่แข็งแกร่ง พร้อมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ใหม่และกลับมาซื้อซ้ำรวมถึงแนะนำลูกค้าใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 5) มุ่งเน้น Customer Centric ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงรสนิยมของลูกค้า สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมบริการแบบ One-Stop Service 6) การนำข้อมูลเชิงลึกจากระบบ SAP B1 มาใช้เพื่อบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจที่มีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา โดยใน 9 เดือนแรกของปี 66 มีรายได้จากการขายและบริการ 958.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 138.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ

กลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี่ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี และมีโอกาสได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและพร้อมใช้จ่ายหากพึงพอใจในสินค้าและบริการ ขณะที่โครงการบ้านระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรีในประเทศไทยปี 65 เปิดตัวรวมทั้งสิ้น 1,218 ยูนิต สูงสุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก CBRE Research)

บริษัทจัดประเภทผลิตภัณฑ์เป็น 3 กลุ่ม ตามการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และเติมเต็มความต้องการอยู่อาศัยในทุกมิติของกลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี่ ได้แก่ 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับงานสถาปัตยกรรมภายใน เช่น เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน, สินค้าเกี่ยวกับห้องน้ำ, ผลิตภัณฑ์โคมไฟและอุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะ 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านและอาคาร เช่น เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน และ 3) กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการประดับตกแต่งและอุปกรณ์ฟิตเนส เช่น เครื่องออกกำลังกายและเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับฟิตเนส, เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง, พรม, เครื่องนอน, ของตกแต่ง เป็นต้น พร้อมบริการจัดส่งและติดตั้ง ซ่อมบำรุงรักษาสภาพ ซอฟท์แวร์เครื่องออกกำลัง โดยทีมช่างที่มีประสบการณ์และทีมที่ปรึกษาการออกแบบที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์จากเจ้าของแบรนด์ระดับโลกอย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างลงทุนขยายโชว์รูมใหม่อีก 3 แห่ง ในย่านทองหล่อ 2 แห่ง และภูเก็ต 1 แห่ง จากปัจจุบันที่มีโชว์รูม 5 แห่ง ในย่านทองหล่อ, ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ศูนย์การค้าคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์, เอกมัยและศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ซี่งจะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสสินค้าเพื่อประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ