TEGH กำลังผลิตเพิ่ม-ราคายางฟื้น-Sustainability หนุน ปาล์มพลิกบวก-พลังงานโดดเด่นดันรายได้โตแน่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 18, 2024 16:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวงศ์กฤษณ์ เจียมศรีพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านกลยุทธ์องค์กร บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) เปิดเผยว่า ตั้งเป้ารายได้ปี 67 จะเติบโต 20% จากปีก่อน ตามการเติบโตของปริมาณการขายทั้งธุรกิจยางพารา น้ำมันปาล์มดิบ และพลังงานทดแทนและการบริหารจัดการกากอินทรีย์

สำหรับธุรกิจยางพาราในปีนี้ วางเป้าปริมาณการขายไว้ที่ 230,000-240,000 ตัน หลังจากได้ขยายกำลังการผลิตยางแท่งไปแล้ว ทำให้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นอีก 70,000 ตัน/ปี และส่งผลให้กำลังการผลิตปีนี้น่าจะอยู่ราว 390,000 ตัน/ปี อีกทั้งมองราคาขายจะฟื้นตัวขึ้น หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 55-60 บาทต่อกิโลกรัม ตามดีมานด์ของลูกค้าที่กลับมาสต็อกสินค้ามากขึ้น (Restock)

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจาก Sustainability เนื่องด้วย TEGH ได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวมาสักพักแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EU Deforestation Regulation : EUDR) ทำให้มีความพร้อมที่จะรองรับกับคำสั่งซื้อที่จะเข้ามา คาดว่าจะสามารถเห็นคำสั่งซื้อเข้ามาได้ภายในครึ่งปีหลังนี้ โดย EUDR เกรด ถือว่ามีมาร์จิ้นดีกว่าเกรดยางปกติ

ทั้งนี้ในอนาคตก็จะมีเรื่องของมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพยุโรป (Carbon Border Adjustment : CBAM) ซึ่งการผลิตยางแท่ง หรือยางธรรมชาติของ TEGH จะใช้พลังงานหมุนเวียน ทำให้ยางแท่งที่ออกมาปล่อยคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสของบริษัทฯ

ด้านธุรกิจปาล์มน้ำมันดิบปีนี้คาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ หลังมีผลขาดทุนสุทธิในปีที่ผ่านมาจากการปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักร โดยปีนี้สามารถกลับมาเดินเครื่องปกติแล้ว ซึ่งประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น หรือมีค่าสกัดน้ำมันปาล์มดิบดีขึ้น อีกทั้งยังมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 30 ตันปาล์มทะลายสดต่อชั่วโมง โดยการติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ใหม่จะช่วยลดโอกาสในการสูญเสียเวลาหยุดเดินเครื่องจักร (Downtime) รวมถึงยังมีแผนติดตั้งหม้อนึ่งใหม่ เพื่อรองรับช่วงพีคของปาล์มได้ดีขึ้น

ธุรกิจพลังงาน คาดเติบโตโดดเด่น จากโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ โซน 3 ระยะที่ 1 เริ่มทยอยผลิตได้มากขึ้น และจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/67 เป็นต้นไป เฟส 1 จะรับ Organic waste ราว 300 ตัน/วัน และจะผลิตก๊าซชีวภาพได้ 30,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ขณะเดียวกันก็เตรียมขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ โซน 3 ระยะ 2 รับ Organic waste เพิ่มอีก 400 ตัน/วัน น่าจะผลิตก๊าซชีวภาพได้อีก 40,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน โดยรวมจะทำให้มีกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพอยู่ที่ 70,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน แบ่งเป็น 50,000 ลูกบาศ์กเมตร/วัน มีลูกค้าแล้ว จำนวน 1 ราย คาดว่าในไตรมาส 4/67 จะเริ่มเห็นการซื้อขายกับลูกค้ารายนี้

รวมถึงยังมองโอกาสขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรองรับกับดีมานด์ลูกค้า นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างยื่นประมูลโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมรอบใหม่ด้วย

"ของเรามีทั้ง ยาง ปาล์ม พลังงาน องค์ประกอบมันครบสำหรับ Sustainability ซึ่งเรามองว่าในอีก 4-5 ปีข้างหน้าเทรนด์ตรงนี้จะมาแรง และเราก็น่าจะเป็น Sustainability to Profitability ซึ่งในอดีตการทำ Sustainability จะคือต้นท้น แต่จากนี้จะเป็นกำไร" นายวงศ์กฤษณ์ กล่าว

ส่วนงบลงทุนรวมปีนี้วางไว้ที่ 700 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้รองรับการขยายกำลังการผลิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ