LPN ยังมีอีก 5 โครงการทยอยรับรู้รายได้ คาดทั้งปีอยู่ที่ 7 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 8, 2008 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) คาดว่า ในปี 51 จะรับรู้รายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2-4 ปี 2551จะมีการทยอยรับรู้รายได้เพิ่มอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการลุมพินีคอนโดทาวน์ รามอิ นทรา-หลักสี่ โครงการลุมพินี วิลล์ รามอินทรา-หลักสี่ และส่วนที่เหลือจากไตรมาส 1 ปี 2551 อีก 3 โครงการ
สำหรับงบการเงินของบริษัทฯ บริษัทย่อย และบริษัทร่วม ไตรมาส 1 ปี 2551 มีกำไรสุทธิ 204.33 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 202.17 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,399.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2550 ที่มีรายได้รวม 1,067.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 31.11
เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้โครงการลุมพินี เพลส รัชดา-ท่าพระ ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 44 ลุมพินี คอนโดทาวน์ บดินทรเดชา-รามคำแหง และโครงการที่ยกมาจากปี 2550 อีก 5 โครงการ รวมถึงรายได้จากการขายที่ดิน 1 แปลง เพื่อพัฒนาเป็นทาวน์โฮม ให้แก่บริษัท พรสันติ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายปรับตัวลดลงจากร้อยละ 36.88 เป็นร้อยละ 30.18 เนื่องจากไตรมาส 1 ปี 2551 ส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้จากโครงการลุมพินี เพลส รัชดา-ท่าพระ ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่มีการแข่งขันสูง จนทางบริษัทไม่สามารถใช้กลยุทธ์การปรับราคาเหมือนที่ผ่านมาได้
ในขณะที่ในไตรมาส 1 มีการชะลอการโอนกรรมสิทธิ์บางส่วน เพื่อรับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเห็นผลเต็มที่ในไตรมาส 2 จากเหตุผลดังกล่าวมีผลให้อัตรากำไรสุทธิลดลงจากร้อยละ 18.94 ในไตรมาส 1 ปี 2550 เป็นร้อยละ 14.60 ในไตรมาส 1 ปี 2551 และมีผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2551 มีอัตราเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2550 เพียงร้อยละ 1.07
สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ณ 31 ธันวาคม 2550 และ 31 มีนาคม 2551 ลดลงจาก 0.88 :1 เป็น 0.83 : 1 ตามลำดับ ส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยก็ยังมีอัตราส่วนที่ลดลงจาก 0.45 : 1 เป็น 0.43 : 1 เนื่องจากการคืนเงินกู้บางส่วนจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ