RAIMONคาดสรุปดีลขายหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือ 1-2 เดือนนี้/ปีนี้พลิกเป็นกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 30, 2008 16:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโสการเงิน บมจ.ไรมอน แลนด์ จำกัด (RAIMON)เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทคาดว่าภายใน 1-2 เดือนนี้จะสามารถสรุปผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ยังขายไม่หมดจำนวน 1,110 ล้านหุ้น ในราคา 1 บาท ซึ่งขณะนี้มีพันธมิตรที่แสดงความสนใจและเข้ามาหารือแล้ว 2-3 รายทั้งประเภทกองทุนและบุคคลทั่วไป 
ทั้งนี้ เงินทีุ่ระดมทุนได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเป็นการลงทุนโครงการใหม่ๆในปีหน้า
"เราเชื่อว่าการเจรจากับพันธมิตรที่จะเข้ามาซื้อหุ้น PP จะสรุปได้เร็วนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เราก็คงจะต้องดูเงื่อนไขในแต่ละรายว่ารับได้หรือไม่ด้วยแต่ใจจริงเราอยากให้ผู้ที่จะเข้ามานั้นถือหุ้นในระยะยาว ซึ่งพันธมิตรอาจจะเป็นรายเดียวหรือหลายรายก็ได้ " นายกิตติ กล่าว
อนึ่ง เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทได้จัดสรรขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,370 ล้านหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาขาย 1 บาท/หุ้น โดย IFA Hotels & Resorts 3 Ltd. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้เข้ามาซื้อจำนวน 340 ล้านหุ้น
นายกิตติ ยังคาดว่า ปีนี้บริษัทจะพลิกมีกำไรจากปีก่อนที่ขาดทุน 30.43 ล้านบาท โดยเห็นได้จากไตรมาสแรกที่ผ่่านมาบริษัทมีกำไรแล้ว 68 ล้านบาท
และคาดว่ารายได้ในปีนี้จะอยู่ที่ 2 พันล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มี 1.7 พันล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้บางส่วนจากโครงการเดอะ นอร์ทพอยท์ และโครงการเดอะ รีเวอร์ ซึ่งได้ดำเนินการในช่วงปลายปีก่อนและจะทยอยสร้างเสร็จปี 54 และจากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัทได้ประโยชน์ด้านภาษีประมาณ 70-80 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ทั้งหมดจำนวน 9 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 54
นายกิตติ กล่าวยอมรับว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่ไม่มากเพราะบริษัทสามารถปรับราคาขายตามต้นทุนใหม่ที่เกิดขึ้นจริงได้ และการที่บริษัทเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน( High End) ทำให้ไม่มีปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับราคาขายเฉลี่ย 5-10% ในบางโครงการและส่วนใหญ่จะเป็นการปรับในโครงการที่เกิดใหม่จากต้นทุนใหม่
ส่วนการเปิดโครงการใหม่ที่เหลือในปีนี้จะทยอยเปิด 3 โครงการ รวมมุลค่าประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการ The Loft South Shore ย่านพัทยาใต้ มูลค่าโครงการประมาณ 5 พันล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้ากลาง-บน จำนวน 730 ยูนิตที่จะเปิดในช่วงกลางเดือนก.ค ปีนี้
โครงการ 185 ราชดำริ มูลค่าโครงการประมาณ 9 พันล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้า High End เช่นกัน เปิดขายในช่วงไตรมาส 4 /51 และโครงการ AMALFI ที่ภูเก็ตมูลค่าโครงการประมาณ 4 พันล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยยูนิตละประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ