(เพิ่มเติม1) PTTCH คาดปี 51 กำไรใกล้ปีก่อนที่ 1.9 หมื่นลบ.-รายได้ 9.97 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 18, 2008 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท.เคมีคอล (PTTCH) คาดว่า ในปี 51 บริษัทจะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไร 1.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 9.97 หมื่นล้านบาท เนื่องจากแม้ว่าในครึ่งปีหลังสเปรดของผลิตภัณฑ์จะอ่อนตัวลงจากครึ่งปีแรก แต่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากความต้องใช้ที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับ นาฟทา ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญราคาอ่อนลงตามราคาน้ำมัน และครึ่งปีหลังราคานาฟทาน่าจะอยู่ในระดับเฉลี่ยไม่เกิน 900 เหรียญ/ตัน และปีหน้าก็จะทรงตัวในระดับนี้ต่อไปได้ นายอดิเทพ พิศาลยบุตร กรรมการผู้จัดการ PTTCH กล่าวว่า ปีนี้ปรับคาดการณ์รายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 9.97 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดไว้ 8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปีหน้าเพิ่มรายได้ปีหน้าเป็น 1.2 แสนล้านบาท จากเดิม 1 แสนล้านบาท ในปีหน้ามองว่าสเปรดผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะปรับลดลง เนื่องจากซัพพลายด์เริ่มมีมากกว่าดีมานด์จากการเปิดโรงงานใหม่ของจีนและอิหร่าน โดยสเปรดโอเลฟินส์จะปรับลดลง 7% จากปีนี้คาดไว้ 504 เหรียญ/ตัน และสเปรด MEG ลดลงถึง 25% จากปีนี้ที่คาดไว้ 279 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่วน HDPE และโอลิโอเคมีคอล คาดว่าจะทรงตัวจากปีนี้ที่คาดไว้ 697 เหรียญสหรัฐ/ตัน และ 356 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม แม้ในปีหน้าสเปรดของผลิตภัณฑ์จะปรับลดลง แต่ปริมาณการผลิตของบริษัทในทุกผลิตภัณฑ์จะมีมากขึ้น โดยในช่วงปลายไตรมาสที่ 3/51 จะเริ่มเดินเครื่องโรงงานโอลิฟินใหม่ที่มีกำลังการผลิต 1 ล้านตัน/ปี ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายที่จะใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการผลิตมากกว่า 80% เนื่องจากมีราคาถูกกว่านาฟทาที่อ้างอิงราคาจากน้ำมันดิบในตลาดโลก และเร็วๆ นี้จะมีการเจรจาเรื่องราคาก๊าซธรรมชาติกับ บมจ.ปตท.(PTT) อีกครั้ง นายอดิเทพ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดในปีนี้คาดว่าดีมานด์กับซัพพลายมีระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ราคาและสเปรดของผลิตภัณฑ์ไม่น่าปรับตัวลงแรง เพราะผู้ผลิตในต่างประเทศ ได้แก่ จีน, ซาอุดิอาระเบีย และกาตาร์ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 38 ล้านตัน/ปี ได้ชะลอการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ออกไป แต่ยังมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 2 ล้านตัน โดยคาดว่าในปี 52-53 ราคาและสเปรดของผลิตภัณฑ์จะปรับลดลงจากปีนี้ไม่มากนัก ขณะที่ราคา MEG คงจะปรับลดลงมา เนื่องจากมีกำลังการผลิตจำนวนมากจากประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป ส่วนเม็ดพลาสติก HDPE ช่วงครึ่งหลังของปีนี้คงจะปรับลดลงไม่มากจากช่วงครึ่งแรกของปีที่มีราคาอยู่ที่ 1,600-1,700 เหรียญสหรัฐ/ตัน และยังมีความต้องการมากในปีหน้า เนื่องจากโรงงานในจีน ซาอุดิอาระเบีย และอิหร่าน จะเลื่อนโครงการใหม่ออกไปเช่นกัน นายอดิเทพ กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะกู้เงิน 1 หมื่นล้านบาทเพื่อลงทุนตามแผนงาน และคาดว่าจะมีการออกหุ้นกู้ราว 5 พันล้านบาท โดยจะรอดูภาวะตลาดที่เหมาะสมก่อน

แท็ก ปตท.   เคมี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ