ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 50 จุดเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภค หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์ถูกแรงขายถล่มลงกว่า 600 จุดนับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 52.9 จุด แตะที่ 4,313.8 จุด หลังจากเคลื่อนตัว ในช่วง 4,274.4-4,512.5 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 2.36 ดอลลาร์ แตะที่ 86.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าความพยายามของธนาคารกลางทั่วโลกที่พร้อมใจกันลดอัตราดอกเบี้ยและใช้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน อาจไม่สามารถยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
โดยหุ้น BP ดิ่งลง 1.8% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ร่วงลง 3.2% แต่หุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จี และทุลโลว์ ออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจ น้ำมันพุ่งขึ้น 18.2% และ 8.7% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษปรับตัวผันผวน โดยดัชนี FTSE 350 สำหรับหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 1.3% ทั้งนี้หุ้นธนาคาร HSBC ดิ่งลง 2% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 13.12% แม้มีข่าวว่าบาร์เคลย์สอาจระดมทุนด้วยการเปิดทางให้ผู้ถือหุ้นในปัจจุบันในการเข้าถือครองหุ้นบุริมสิทธิหรือเครื่องมือทางการเงินประเภทอื่นๆ ก่อนที่บาร์เคลย์สจะรับเงินทุนจากทางรัฐบาล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์:
[email protected]