ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กข้อมูลศก.สหรัฐอ่อนแอ ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 127.04 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday October 18, 2008 06:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอและสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยเร็วกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตัวเลขการก่อสร้างบ้าน และยอดค้าปลีก

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 127.04 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 8,852.22 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 5.88 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 940.55 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 6.42 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 1,711.29 จุด

ปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์จากบริษัท Avalon Partners Inc กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นับตั้งแต่ยอดค้าปลีก ตัวเลขการก่อสร้างบ้าน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงที่จะถดถอยเร็วกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น

"ที่ผ่านมาแม้รัฐบาลสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐพยายามทำทุกวิถีทางที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ แต่นักลงทุนและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ภายในประเทศยังคงมีมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ เนื่องจากตลาดการเงินยังคงขาดสภาพคล่อง และภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกจุด" คาร์ดิลโลกล่าว

ผลสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างการประชุมสภาธุรกิจที่รัฐเซาท์ แคโรไลนา บ่งชี้ว่า ซีอีโอส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 2% ในปี 2551 และซีอีโอที่มองว่าความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจถดถอยลงมากนั้น มีอยู่กว่า 90% เมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อ 6 เดือนที่แล้วที่ 87%

การสำรวจความเห็นครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจในกรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ว่า มาตรการฟื้นฟูเสถียรภาพในตลาดการเงินและคลี่คลายวิกฤตสินเชื่อที่รัฐบาลสหรัฐนำมาใช้นั้น อาจยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นในทันที

นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ร่วงลง 1.2% แตะระดับ 3.755 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีพ.ศ.2548 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.7%

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐร่วงลงมากกว่า 6% แตะระดับ 817,000 ยูนิต ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับลงเพียง 2.6% แตะระดับ 872,000 ยูนิต

เทอร์ริน กริฟฟิธส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท California Credit Union League กล่าวว่า "บริษัทก่อสร้างบ้านยังคงเจอบททดสอบที่ยากในการดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อ หลังจากตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนักในเดือนนี้ ประกอบกับธนาคารกำหนดคุณสมบัติของผู้กู้ที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยากขึ้นด้วย เราคาดว่าตัวเลขการก่อสร้างที่ร่วงลงจะยังคงส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไปจนถึงปีพ.ศ.2552"

หุ้นกูเกิลดีดตัวขึ้น 5.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 26% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ดีดขึ้น 2 ดอลลาร์ แตะที่ 71.85 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้น Chesapeake Energy พุ่งขึ้น 11.6% และหุ้น XTO Energy ดีดขึ้น 7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ