น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ นักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขั้นตอนการออก พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ยังต้องใช้เวลาอีกนาน และยังมีโอกาสที่จะมีการแก้ไขรายละเอียดอีก นอกจากนั้นคงจะส่งผลกระทบต่อห้างสรรพสินค้าและค้าปลีกรายใหญ่ไม่มากนัก
"คิดว่ากว่า พ.ร.บ.นี้จะผ่านก็คงอีกยาว และในระหว่างทางก็คงมีการแก้ไขอะไรอีก คงมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นแก้ไขร่างอะไรอีก ในมุมมองคิดว่าค่อนข้างใช้เวลาที่จะผ่านร่างออกมาบังคับใช้"น.ส.สุทธาทิพย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันนี้
นอกจากนี้ มองว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาค่อนข้างช้าไปแล้ว เพราะค้าปลีกรายใหญ่ๆ ขยายสาขากันไปมากแล้ว ถึงแม้พ.ร.บ.จะมีผลบังคับใช้ และทำให้การขยายสาขาทำได้ยากขึ้น แต่ผลกระทบต่อรายใหญ่ ๆ ก็ไม่น่าจะมากเพราะขยายสาขาไปมากแล้ว เผลอ ๆ อาจจะเป็นแง่บวกด้วยซ้ำ เพราะถ้าจะมีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาก็คงจะขยายสาขาตามได้ยากเช่นกัน
ทั้งนี้ หากในอนาคตการขยายสาขาใหม่ทำได้ยากขึ้น การเติบโตของยอดขายก็คงจะมาจากสาขาเดิมเป็นหลัก ซึ่งตราบใดที่คนยังจับจ่ายใช้สอย ยอดขายจากสาขาเดิมน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ในระยะสั้นก็คงมีผลกระทบบ้างต่อราคาหุ้นในกลุ่มนี้ แต่ระยะยาวยังมองว่าหุ้นในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น CPALL, BIGC, HMPRO ยังดูดี เพราะโดยปัจจัยพื้นฐานโดยรวมถือว่ายังดี แม้จะเกิดภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ เพราะ CPALL และ BIGC สินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วน HMPRO ค่อนข้างโดดเด่นใน Sector สินค้าตกแต่บ้าน"แนะนำ ทยอยสะสม CPALL ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท/หุ้น, HMPRO ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท/หุ้น แต่ต้องดูจังหวะของตลาดประกอบด้วย
เมื่อเวลา 11.29 น. ราคาหุ้น CPALL อยู่ที่ 9.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท (+1.57%)
ราคาหุ้น HMPRO อยู่ที่ 3.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนราคาหุ้น BIGC ไม่มีการเคลื่อนไหว