ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากช่วงเช้า ล่าสุดร่วงไปแล้ว 4% โดยมีแรงเทขายหุ้นออกมาอย่างมากในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากตลาดกังวลผลประกอบการกลุ่ม ปตท.ในไตรมาส 4/51 ที่อาจขาดทุนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เช่นเดียวกับบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่หลายแห่งส่อเค้าขาดทุนอ่วม ซึ่งทำให้ตลาดต่างประเทศวันนี้ตอบรับในแดนลบเกือบทุกแห่ง หลังจากนักลงทุนขายลดความเสี่ยง ซึ่งบ่ายวันนี้ดัชนีนิเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงกว่า 400 จุดทำนิวโลว์ในรอบ 1 เดือนหลังจากคาดว่าโซนี่จะขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ขณะที่ราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้ร่วงลงมามาก มองแนวรับสำคัญที่ 430 จุด พลิกเป็นรีบาวน์
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเร็วมาก มาจากการขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นการขายต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เพราะกังวลผลประกอบการของกลุ่ม ปตท. (PTT) ที่คาดว่าจะขาดทุนในไตรมาส 4/51 มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ดึงให้หุ้นในกลุ่ม ปตท. ลงมามาก
นอกจากนี้ เป็นผลจากสินค้าโภคภัณฑ์(commodity) ปรับตัวลงมาก โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ลงรวดเดียว 7% หรือ 3.24 ดอลลาร์ มาปิดที่ 37.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำให้มีแรงขายในหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ออกมามากพอสมควร
ประกอบกับ ตลาดต่างประเทศกังวลผลประกอบการของสถาบันการเงินในสหรัฐ ซึ่งคาดว่าขาดทุนพอสมควร โดยก่อนหน้านี้นักลงทุนคิดว่าสถานการณ์เริ่มนิ่งแล้วจากการที่มาตรการช่วยเหลือต่างๆ ที่ออกมา ทำให้ตลาดหุ้นในต่างประเทศก็ย่อต้วลงมา เหล่านี้ทำให้บดบังปัจจัยบวกเรืองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยในวันนี้ที่มีหลายมาตรการประกาศออกมาแล้ว
"ดัชนีลงเร็วไป เป็นการลงติดต่อมา 5 วันแล้ว ถ้าลงมาเร็วแถว 430 จุด น่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นบ้าง ณ ขณะนี้ ราคาลงเร็วเกินไปในหุ้นหลักๆ ที่แนวรับสำคัญ อย่าง PTT หลุดแนวรับ 163 ที่ดูทางเทคนิคก็มีการ short แนวรับใหญ่อยู่ที่ 150 ต้นๆ" นายพิชัย กล่าวเมื่อเวลา 16.14 น. ดัชนี SET ขยับมาที่ 434.71 จุด ลบ 15.09 จุด (-3.33%) จากเมื่อ 15.38 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 434.41 จุด ลดลง 18.39 จุด (-4.06%)
โดยหุ้นพลังงาน กลุ่มแบงก์ มีแรงขายออกมาอย่างหนัก ได้แก่ PTTEP (-5.56%) , PTT (-5.36%), BANPU (-5.83%), SCB Z-3.85%), KBANK (-3.23%), ADVANC (-3.36%), ITD(-12.68%)