นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการุรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.จะว่าจ้างบริษัท Deutsche Bahn International(DBI) จากเยอรมัน เพื่อเดินรถโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง(แอร์พอร์ตลิงค์)ในช่วง 2 ปีแรกที่จะเริ่มเปิดให้บริการในปีนี้
เนื่องจากแผนจัดตั้งบริษัทลูกมาบริหารการเดินรถยังติดขัดที่จะต้องรอให้รัฐบาลอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการของ รฟท.ก่อน ขณะที่แนวทางที่รมช.คลังเสนอให้เปิดกว้างเอกชนเข้ามาร่วมในบริษัทลูกดังกล่าว ก็ยังติดขัดอีกหลายประเด็น โดยเฉพาะการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนภาครัฐและเอกชน ที่ต้องใช้เวลาอีกนาน ในขั้นนี้จึงยังเป็นไปได้ยาก
"ยังไม่มีแผนร่วมทุนกับเอกชน ต้องคุยกับสหภาพฯ คิดว่าหากจะร่วมทุนก็ต้องใช้เวลาอีก 2 ปีกว่า เพราะเข้าหลักเกณฑ์ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ซึ่งใช้เวลาพิจารณานาน 2 ปี เพราะฉะนั้นในชั้นนี้ เราต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้เดินรถได้ น่าจะจบตรงนี้ที่รถไฟทำเอง" นายยุทธนา กล่าวกับ"อินโฟเคสวท์"ส่วนการว่าจ้างบริษัทเดินรถไฟฟ้าในประเทศ ได้แก่ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) และ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS)เข้ามาดำเนินการนั้น ผู้ว่าการ รฟท.เห็นว่า อาจจะไม่มีศักยภาพหรือความเชี่ยวชาญพอเมื่อเทียบกับ DBI ที่มีประสบการณ์เดินรถไฟฟ้ามาแล้วทั่วโลก
ทั้งนี้ รฟท.คาดว่าจะเปิดทดลองเดินรถ ในวันที่ 12 ส.ค.52 และจะเปิดให้บริการอย่างทางการ ในเดือน ธ.ค.นี้ โดยก่อนหน้านี้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง แนะนำให้ รฟท.ใช้วิธีร่วมทุนเอกชนรตั้งบริษัทเดินรถน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า
ผู้รับแหมาโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีกริม ซึ่งประกอบด้วย บริษัท บีกริม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด B.GRIMM MBM Hong Kong Ltd. บริษัท ซีเมนส์ จำกัด และบมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น (STEC) นั้น คาดว่าจะส่งมอบงานได้ภายในเดือนส.ค.นี้ แต่ก็กังวลว่าผู้รับเหมาจะส่งมอบงานไม่ทัน เพราะผู้รับเหมาได้ต่ออายุการทำงานไปถึงเดือน ธ.ค.52
นายยุทธนา กล่าวว่า สำหรับแผนฟื้นฟูกิจการของรฟท.จะต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติจากครม.ก่อนจึงจะดำเนินการตามขั้นตอนอื่น ๆ ได้ โดยกระทรวงคมนาคมจะเสนอแผนฟื้นฟูฯ รฟท.เข้าสู่ที่ประชุมครม.ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ โดยตามแผนฟื้นฟูดังกล่าวจะมีการแยกการบริหารโดยจัดตั้งบริษัทลูก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัทเดินรถที่รฟท.ถือหุ้น 100% และบริษัทบริหารสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงสัญญาเช่าพื้นที่กับเอกชน