PR124 คาดปี 52 พลิกกลับมามีกำไร, รอเซ็นสัญญา 4 รายใน Q2/52

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 12, 2009 10:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิมิตร หมดราคี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.124 คอมมิวนิเคชั่นส(PR124)เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯมีแนวโน้มการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิได้ เนื่องจากธุรกิจที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์เริ่มกลับเข้าสู่วงจรปกติ ส่งผลให้บริษัทฯมีลูกค้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวลดลงจากการควบคุมค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการที่ดี

“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เป็นช่วงซบเซาของธุรกิจ สาเหตุหลักเป็นผลจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ทำให้ทุกฝ่ายขาดความเชื่อมั่น และไม่สามารถกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนได้ แต่ในปัจจุบันทุกอย่างมีความชัดเจน สถานการณ์ต่างๆค่อนข้างนิ่ง ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เริ่มกลับมาให้ความสำคัญต่อการสื่อสารกับประชาชน ผู้บริโภครวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น"นายนิมิตร กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญาภายในช่วงไตรมาส 2/52 จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ 2 แห่ง มูลค่างานรวมประมาณ 20 ล้านบาท, บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ย และบริษัทประกันภัย หลังจากในช่วงไตรมาส 1/52 บริษัทมีลูกค้าเพิ่มขึ้นจำนวน 11 ราย แบ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย สถาบันพัฒนาพื้นที่สูง, กระทรวงการต่างประเทศ, สถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการ, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, กรมทรัพย์สินทางปัญญา และบริษัท ไทยแลนด์พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ลูกค้าภาคเอกชน จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์, ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม, ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ชั้นนำของโลก, ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง และบริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์

ส่วนลูกค้าเก่าของบริษัทฯที่มีการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง อาทิ มาสเตอร์การ์ด, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ, บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ. สยามฟิวเจอร์ดีเวลลอปเมนท์ (SF) ฯลฯ

นายนิมิตร กล่าวถึงผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/52 ว่า มีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 18.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 6.4 ล้านบาท จำนวน 12.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 190.62% อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังมีขาดทุนสุทธิจำนวน 1.97 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 7.34 ล้านบาท จำนวน 5.37 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลง 73.16%



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ