(เพิ่มเติม) PTT ขอรัฐลอยตัวราคา LPG สำหรับโรงแยกก๊าซแห่ง 7 เพื่อให้คุ้มค่าการลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 12, 2009 13:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า ปตท.ได้ชะลอแผนการลงทุนสร้างโรงแยกก๊าซแห่งที่ 7 ที่เดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 56 นื่องจากหากใช้ราคาก๊าซหุงต้ม(LPG)ในตลาดขณะนี้จะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะ ปตท.ขายก๊าซ LPG ในราคาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการให้รัฐปล่อยให้ราคาก๊าซ LPG เป็นไปตามราคาตลาดโลกในโครงการที่จะเกิดใหม่ เพื่อเร่งให้เกิดการลงทุน

สำหรับโรงแยกก๊าซแห่งที่ 6 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/52 ซึ่งเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ในช่วงไตรมาส 1/53 ซึ่งจะมีกำลังการผลิตที่ 2 ล้านตัน/ปี ซึ่ง 50% เป็นก๊าซ LPG ดังนั้น หากรัฐยังตรึงราคาก๊าซ LPG ก็จะทำให้ผลตอบแทนการลงทุน(IRR)ไม่ได้ถึง 16.8% ตามเป้าหมาย เนื่องจาก ปตท.ต้องแบกภาระขาดทุนไว้

ขณะที่การปรับปรุงโรงแยกก๊าซแห่งที่ 2 และ 3 คงจะแล้วเสร็จตามกำหนดในไตรมาส 1/53 เช่นกัน

นายเพิ่มศักดิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนลงทุนโครงการซุปเปอร์โซนิก ซีมูเลเตอร์ ที่เดิมจะแล้วเสร็จในปี 54 แต่ขณะนี้ชะลอออกไปไม่มีกำหนดเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นโครงการเกี่ยวเนื่องกับ LPG ซึ่งไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเหมือนกัน

ด้านนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTT กล่าวว่า หากรัฐไม่ลอยตัวค่าก๊าซ LPG ให้เป็นไปตามตลาดโลก บริษัทก็ไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนโรงแยกก๊าซแห่งที่ 7 เนื่องจากจะไม่คุ้มค่าการลงทุน หากปริมาณก๊าซ LPG ไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศก็สามารถนำเข้ามาจากต่างประเทศได้ ซึ่งปตท.จะได้ไม่ต้องแบกภาระทั้งด้านการลงทุนและผลขาดทุน

ทั้งนี้ ในปี 53 ปตท.ประมาณการว่าไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติถึง 1 ล้านตัน คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 1.44 หมื่นล้านบาท

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า เห็นด้วยการปล่อยลอยตัวราคา LPG ให้เป็นไปตามกลไกตลาด แต่ต้องคำนึงถึงความเดือดร้อนของภาคประชาชนที่ใช้ก๊าซ LPG ในปริมาณที่สูง และต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)คำนวณต้นทุนและราคา LPG ที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยก่อนจะนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ